ในโลกของการตลาดปัจจุบัน การสร้างโฆษณาที่สามารถหยุดสายตาผู้ชมได้เพียงไม่กี่วินาทีถือว่าเป็นเรื่องท้าทายแล้ว แต่ “ทางเลือก” หนังโฆษณาชุดใหม่จาก บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) กลับเลือกเดินอีกหนึ่งเส้นทางที่ยากกว่านั้น แทนที่จะพยายามขายผลิตภัณฑ์หรือสร้างกระแสชั่วคราว หนังเรื่องนี้กลับเลือก “ตั้งคำถามกับคนดู” และ “จุดประกายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตจริง”
“ทางเลือก” ไม่ได้พูดถึงแค่ “หนี้” ในฐานะปัญหาทางการเงิน แต่พูดถึง การกล้ายอมรับความจริง และ การตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิต นั่นคือ การลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับหนี้ที่เคยพยายามหลีกเลี่ยงด้วยตัวเอง
สิ่งที่ทำให้หนังโฆษณานี้แตกต่างจากโฆษณาทั่วไปคือ การสื่อสารที่ตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ และไม่หลีกเลี่ยงประเด็นที่คนส่วนใหญ่มักไม่อยากพูดถึง โดยเฉพาะเรื่องภาระหนี้ที่เกิดจากการใช้จ่ายเพื่อรักษาภาพลักษณ์ หรือการกู้เงินเพื่อกลบหนี้เดิมซ้ำๆ จนกลายเป็นวังวน
แทนที่จะบอกว่า “คุณควรทำอะไร” หนังโฆษณาเรื่องนี้กลับถามว่า “แล้วคุณล่ะ…จะเลือกทางไหน?” ระหว่างการแบกต่อไป หรือยอมปล่อยบางอย่างเพื่อเริ่มต้นใหม่?
นี่คือสิ่งที่ทำให้ “ทางเลือก” ไม่ใช่แค่หนังโฆษณา แต่คือ กระจกสะท้อนความจริงที่หลายคนหลีกเลี่ยง และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนดูกลับมาทบทวนชีวิตตัวเองอย่างจริงจัง
ในยุคที่แบรนด์ส่วนใหญ่ยังใช้โปรโมชันและความฝันเพื่อดึงความสนใจ เงินติดล้อกลับเลือกใช้ “ความจริง” และ “ความเข้าใจมนุษย์” เพื่อเชื่อมต่อกับหัวใจของคนไทย
กล้าบอกความจริงเรื่อง “หนี้” เมื่อแบรนด์ไม่เลือกทางง่าย
การพูดเรื่อง “หนี้” อย่างตรงไปตรงมาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ “ทางเลือก” กลับเลือกที่จะเดินไปในทางตรงกันข้าม ทางที่เสี่ยงกว่า ยากกว่า แต่ “จริง” กว่า
โฆษณานี้เปิดฉากด้วยความรู้สึกที่หลายคนคุ้นเคยแต่ไม่อยากยอมรับ นั่นคือ ความกดดันทางการเงินที่เกิดจากหนี้สิน ที่แม้ภายนอกดูเหมือนยังไหว แต่ภายในกลับอึดอัดแทบขยับไม่ได้ แทนที่จะหันหน้าหนีปัญหา หรือซ่อนความจริงไว้ใต้ภาพลักษณ์ที่ดูดี “ทางเลือก” กลับหยิบเอาความรู้สึกนั้นมาเล่าอย่างกล้าหาญ ตรงไปตรงมา และเต็มไปด้วยความเข้าใจ
สิ่งที่น่าสนใจคือ หนังเรื่องนี้ ไม่ได้แค่เตือน ว่าหนี้เป็นเรื่องน่ากลัว แต่กลับกล้าตั้งคำถามลึกลงไปอีกว่า “ถ้าเราติดอยู่ในวังวนของหนี้แล้วจริงๆ จะออกจากตรงนั้นได้ยังไง?” เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบตายตัว แต่เปิดให้ผู้ชมกลับมาทบทวนกับตัวเองอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่ในฐานะลูกหนี้ แต่ในฐานะ “มนุษย์คนหนึ่ง” ที่มีทางเลือกเสมอ...เพียงแต่กล้าพอจะเลือกหรือไม่
จุดเริ่มต้นของโปรเจ็กต์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2023
เมื่อทีมงานได้ติดตามสถานการณ์ด้านการเงินของคนไทย และพบว่าหนี้ครัวเรือนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลทั้งจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ผลกระทบสะสมจากโควิด-19 รวมถึงพฤติกรรมทางการเงินบางอย่างที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง
จากข้อมูลเชิงสถิติ สู่ความเข้าอกเข้าใจสถานการณ์ของคนในสังคม ทีมงานจึงเริ่มตั้งคำถามใหม่ว่า “เราจะช่วยเป็นกำลังใจให้คนไทยแก้ปัญหาและกล้าเผชิญหน้ากับหนี้ได้อย่างไร?”
ในช่วงระดมความคิด มีประโยคหนึ่งที่ยังคงติดอยู่ในใจใครหลายคน...
“ชีวิตเป็นแบบนี้...ก็เพราะมันไม่มีทางเลือก”
แต่มองให้ลึกลงไป พวกเขากลับเห็นสิ่งที่ต่างออกไป เราทุกคนต่างมีทางเลือกเสมอ เพียงแต่อาจหลงลืม หรือไม่กล้าพอจะเลือกมัน นั่นคือแก่นหลักที่ผลักดันให้เกิดโฆษณา “ทางเลือก”
ไม่ใช่เพื่อการจูงใจให้ลูกค้ามากู้เพิ่ม แต่เพื่อเป็น “กระจก” ที่พาผู้ชมมองเห็นความเป็นจริงในชีวิต และค้นพบว่าความเปลี่ยนแปลงอาจเริ่มได้ จากการเลือกทางที่เหมาะกับตัวเองในก้าวแรก
ทีมที่เชื่อว่า “โฆษณา” กลายเป็นพลังเปลี่ยนความคิด
‘ทางเลือก’ เป็นการร่วมมือกันอีกครั้งของบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) กับเอเจนซี Genesis 12 และผู้กำกับระดับแถวหน้าของไทยอย่าง คุณต่อ ธนญชัย ศรศรีวิชัย คุณต่อเล่าถึงความยากที่สุดของหนังเรื่องนี้ว่าไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องให้คนดูอิน แต่คือการทำให้คนดู “กล้าเปลี่ยน” ความคิด และ “กล้าตัดสินใจ” เพื่อชีวิตของตัวเอง
เมื่ออยากเห็นคนที่ชีวิตพังเพราะหนี้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนมุมมองความคิด เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ที่เคยมีมาทั้งชีวิต ‘ทางเลือก’ จึงเป็นหนังโฆษณาที่ท้าทายอย่างมากสำหรับ Genesis 12
“เราจะพูดกันตลอด กดดันกันเองว่าเรากำลังทำในสิ่งที่ดีกับสังคมจริงๆ ต้องช่วยกันเปลี่ยนพฤติกรรมคนให้ได้ ทุกขั้นตอนเราจึงย้อนกลับมาถามกันตลอดว่าที่ทำกันอยู่ นำเสนอกันอยู่มันดีที่สุดแล้วยัง เพราะเราไม่ได้อยากให้มันเป็นแค่หนังเรื่องหนึ่งเท่านั้น แต่เราอยากให้ความคิดที่ว่า ‘ชีวิตยังมีทางเลือก’ ฝังอยู่ในใจของคนที่มีปัญหาหนี้ เพื่อคำนี้จะโผล่ขึ้นมาในเวลาที่เขาคิดว่าอับจนหนทาง หรือถึงเขาจะใช้ชีวิตแบบเดิมต่อจนสุดทางแบบในหนัง วันหนึ่งคำนี้ก็จะย้อนมาให้เขาตอบตัวเองได้ว่า ทางเลือกมันมี แต่เขาไม่เลือก หรือเพราะเขาเลือกที่จะไม่เปลี่ยนอะไรเลย ชีวิตเลยเป็นแบบนี้”


ขณะเดียวกัน ทีมงานของเงินติดล้อเองก็รู้ดีว่า หนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่หนังโฆษณาอีกชิ้นหนึ่ง แต่เป็นการส่งต่อเจตนารมณ์ขององค์กรที่อยากให้ผู้คนในสังคมได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีการเงินที่มั่นคง ซึ่งเริ่มจากความรู้ทางการเงินที่ถูกต้อง ความตระหนักรู้เรื่องการจัดการหนี้สิน และเรียกได้ว่าเงินติดล้อเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่กล้าทำหนังโฆษณาที่บอกว่า “เราไม่อยากให้คุณกลับมาหาเราอีก”
และเงินติดล้อก็ยังคงทำอย่างต่อเนื่องในการส่งสารเรื่องหนี้ถึงผู้บริโภค
“เราก็รู้ว่าปัญหาหนี้จะแก้ได้สำเร็จต้องเริ่มต้นจากความตั้งใจของลูกค้าหรือคนที่อยากจะแก้ปัญหาหนี้ของตัวเองจริงๆ ทำให้เงินติดล้อใช้เงินลงทุนกับหนังสั้นเพื่อกระตุกเตือนคนในสังคม มากกว่าการใช้เงินในหนังโฆษณาผลิตภัณฑ์ของเงินติดล้อด้วยซ้ำไป”
นี่คือความตั้งใจที่ฝังอยู่ใน DNA ขององค์กรและพนักงานทุกคน และเป็นเหตุผลว่าทำไมเงินติดล้อถึงกล้าลงทุนกับ “หนังเตือนสติ” มากกว่าโฆษณาขายของทั่วไป
หนี้ไม่ดี ก็รักษาได้ถ้าเรากล้าราดแอลกอฮอล์ลงไป
“หนี้” ไม่ใช่คำที่ใครอยากพูดถึง และยิ่งไม่น่าเอามาเป็นหัวใจของโฆษณา แต่สำหรับโฆษณา “ทางเลือก” แล้ว หนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขในบัญชี หากคือ “แผล” ที่กำลังอักเสบอยู่ในชีวิตจริงของผู้คนจำนวนมาก
หนังเรื่องนี้ไม่ได้มองหนี้เป็นเรื่องที่แย่ แต่มองด้วยความเข้าใจว่าหนี้มีหลายมิติ
หนี้ดี คือหนี้ที่ช่วยสร้างโอกาสทางชีวิต เช่น การลงทุนเพื่อการศึกษา หรือการต่อยอดธุรกิจ
หนี้ไม่ดี คือหนี้ที่เกิดจากการใช้จ่ายเพื่ออารมณ์ชั่ววูบ การตามกระแส หรือการรักษาภาพลักษณ์ โดยไม่มีแผนจัดการที่ชัดเจน
สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่แค่การมีหนี้ แต่คือการ “ไม่ยอมรับว่าตัวเองมีปัญหา” และยังคงเลือกแบกต่อไป โดยไม่กล้าหยุดคิด ไม่กล้าเปิดดู “แผล” นั้นอย่างตรงไปตรงมา
หนังโฆษณา “ทางเลือก” ได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับหนี้ไว้อย่างลึกซึ้งว่า
“หนี้ไม่ดี ก็เหมือนแผลสด ทั้งเจ็บ ฝังลึก และบ่อยครั้งที่เราพยายามหลีกเลี่ยงที่จะมอง”
การหลีกเลี่ยงอาจช่วยให้เราไม่เจ็บในวันนี้ แต่สุดท้าย มันจะฝังลึกขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นสิ่งที่กัดกินเราอยู่เงียบๆ ในทางกลับกัน ถ้าเรากล้าราดแอลกอฮอล์ลงไป มันอาจแสบในช่วงแรก แต่แผลนั้นจะเริ่มฟื้นตัว ค่อยๆ ดีขึ้น และสุดท้าย...รักษาหาย
สาระสำคัญของโฆษณานี้จึงไม่ใช่แค่การ “ตระหนัก” ว่าปัญหามีอยู่จริง แต่คือการ “กล้าเผชิญหน้า” กับมันอย่างตรงไปตรงมา ลงมือแก้ไขอย่างมีสติ บนพื้นฐานของความเข้าใจ ไม่ใช่เพราะแรงกดดันจากสังคมหรือภาพลักษณ์ และบางครั้ง...ความเจ็บในวันนี้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตการเงินที่แข็งแรงขึ้นในวันหน้าสารจากใจหัวเรือใหญ่ของทีมผู้สร้าง
ท่ามกลางความท้าทายในการเล่าเรื่อง “หนี้” ให้คนดูรู้สึกเข้าใจ ไม่ต่อต้าน และยังเกิดแรงบันดาลใจในเวลาเดียวกัน คุณหนุ่ม ปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) ได้ถ่ายทอดสิ่งที่เป็นหัวใจของโปรเจ็กต์นี้ออกมาอย่างชัดเจนว่า
“แค่มีคนดูหนังของเราแล้วได้แรงบันดาลใจ ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองสักคนเดียว มันก็คุ้มแล้ว”
คำพูดนั้นไม่ได้เป็นแค่แนวคิดในการสื่อสาร แต่สะท้อน “จุดยืนขององค์กร” ที่ยึดมั่นมาโดยตลอดว่าการทำธุรกิจไม่ใช่แค่การเติบโตของตัวเลข แต่คือการเติบโตของคุณภาพชีวิตผู้คนในสังคม
หนังโฆษณาเรื่องนี้จึงไม่ถูกสร้างขึ้นเพื่อแค่อยากเป็นกระแส แต่ถูกสร้างขึ้นจากความเชื่อว่า ถ้า “ใครสักคน” ได้เห็นตัวเองในเรื่องราว และกล้าตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิต นั่นแหละคือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วสำหรับแบรนด์
บทสรุปที่ไม่ได้จบในหนัง
“ทางเลือก” อาจเป็นเพียงหนังโฆษณาหนึ่งเรื่องที่ใช้เวลาไม่กี่สิบนาทีบนหน้าจอ แต่สิ่งที่มันทิ้งไว้ในใจผู้ชม กลับหนักแน่นและจริงจังกว่าที่ใครคาดคิด มันไม่ได้จบลงเมื่อเครดิตขึ้น แต่มันเพิ่งเริ่มต้น…เมื่อผู้ชมเริ่มหันกลับมาถามตัวเองว่า
“วันนี้ เรากำลังแบกอะไรอยู่?”
“และเราพร้อมจะวางมันลง แล้วเลือกทางเดินใหม่ให้กับชีวิตหรือยัง?”
ไม่มีใครเลือกชีวิตของเราได้นอกจากตัวเราเอง หนี้ไม่ใช่จุดจบ และการยอมรับความจริงไม่ใช่ความพ่ายแพ้ แต่คือจุดเริ่มต้นของ “การเลือก”
เลือกที่จะไม่วิ่งหนี
เลือกที่จะหาทางออก
เลือกที่จะเริ่มต้นใหม่อย่างมีสติ
และบางที…แค่การกล้าถามตัวเองตรงๆ ก็อาจเพียงพอแล้ว ที่จะพาเราออกจากวังวนเดิม และก้าวสู่ชีวิตที่ดีขึ้นในแบบของเรา เพราะสุดท้ายนี้ ชีวิตมีทางเลือกเสมอ แต่อยู่ที่ว่า...คุณกล้าเลือกหรือเปล่า
ติดตามหนังโฆษณา “ทางเลือก” ได้ที่นี่