ถ้าพูดถึงบริษัทที่ดูแลพนักงานให้มีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ‘เงินติดล้อ’ คงจะเป็นหนึ่งในคำตอบต้นๆ ในใจของใครหลายๆ คนแน่นอน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของคน
“คุณเหมียว นุชนารถ อาภามงคล” ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายทรัพยากรบุคคล เพื่อชวนคุยถึงประสบการณ์การทำงาน ความรับผิดชอบ พร้อมแชร์วิธีการทำงานหลังบ้านในการดูแลชาวเงินติดล้อให้มีคุณภาพชีวิตและความสุขอย่างทุกวันนี้
เส้นทางการทำงานและภาพรวมงานที่รับผิดชอบของในฐานะผู้นำ
"พี่ทำงานที่เงินติดล้อปีนี้เข้าสู่ปีที่ 11 ค่ะ ก่อนมาทำงานที่นี่พี่เคยทำงาน HR ด้านการพัฒนาองค์กรที่บริษัทอื่นมา 6 ปี และก็เปลี่ยนสายธุรกิจมาเป็นด้านการเงินที่เงินติดล้อนี่แหละ ช่วงแรกพี่รับผิดชอบในส่วนของ Strategy ดูกลยุทธ์ภาพรวม พอทำงานไปได้อีกสักระยะก็ได้รับความไว้วางใจให้บริหารทีม People Life ซึ่งจะรับผิดชอบงานด้านการบริหารค่าตอบแทนและสวัสดิการ การจัดการโครงสร้างองค์กรและแผนการเติบโตของพนักงาน รวมถึงการบริหารจัดการระบบข้อมูลของพนักงาน ให้สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจ
จนเข้าสู่การทำงานในปีที่ 11 นี่แหละที่ได้รับความไว้วางใจให้ขึ้นมาเป็น Head of Happy People ซึ่งจะขยายการดูแลไปครอบคลุมส่วน People Fit ที่ดูแลเรื่องการสรรหาและคัดเลือกคนเข้ามาทำงานในองค์กรด้วย
สำหรับการดูแลคนในองค์กรปัจจุบันเราได้แบ่งออกเป็น 2 ทีมหลัก คือ ฝ่าย Happy People ที่พี่ดูแล โดยจะประกอบไปด้วย People Fit ดูแลเรื่องสรรหาและคัดเลือกพนักงาน และ People Life ดูแลความเป็นอยู่ เงินเดือน สวัสดิการ และการบริหารจัดองค์กรให้เหมาะสม และฝ่าย TIDLOR Academy ภายใต้การบริหารของที่พี่ตี้ กาญจน์ณัฐ ประกอบไปด้วย People Learn ดูแลเรื่องการฝึกอบรมและพัฒนาคน และส่วน Culture ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร รวมถึง Financial Education"
ความรู้สึกหลังจากได้รับมอบหมายหน้าที่นี้ และคิดว่าอะไรคือจุดแข็งที่ทำให้ก้าวมาถึงวันนี้ได้
"เป็นความรู้สึกผสมๆ กันมากกว่าว่าถึงเวลาแล้วเหรอ ถามว่ากังวลไหม ก็ต้องบอกว่ามีบ้าง เพราะบริษัทเรากำลังเติบโตขึ้นไปอีกขั้น บริษัทต้องขยายไปเรื่อยๆ คนที่ต้องดูเราต้องดูแลคนมากขึ้น ต้องเจอกับความท้าทายทางธุรกิจของตลาดไฟแนนซ์ที่แข่งขันกันสูงในทุกๆ ด้าน ซึ่งเราก็ต้องคอยอัปเดตสถานการณ์ หาข้อมูลใหม่ๆ มาปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน วางแผนในวันข้างหน้าว่าเราจะก้าวไปยังไง
คือเราเป็นคนที่ไม่ได้มีความกังวลแล้วจะจมอยู่กับมัน เราเชื่อว่าสุดท้ายก็ต้องผ่านไปให้ได้ เลิกกังวลหาทางออก! ส่วนจุดแข็งคือ…พี่เป็นพวกไม่ยอมแพ้ ชอบความท้าทาย ชอบอะไรใหม่ๆ เวลาได้รับมอบหมายอะไรก็จะพยายามหาทางออกให้ได้ ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พี่ๆ และคนรอบข้างเชื่อว่าเราจะทำหน้าที่นี้ได้"
ทีม HP ต้องดูแลคนในองค์กรกว่า 7,000 คน มีวิธีการสื่อสารยังไงให้ทั่วถึง
"คนในองค์กรของเรามีทั้งที่สำนักงานใหญ่และที่สาขากว่า 1,600 สาขาทั่วประเทศ เลยเป็นเรื่องท้าท้ายถ้าทุกเรื่องจะต้องออกจากทีมของเราฝ่ายเดียว โชคดีที่เงินติดล้อเราจะเน้นการทำงานแบบ Cross Functional มีทีมต่างๆ ที่เป็นเจ้าของโปรเจ็กต์และทีมที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยส่งต่อการสื่อสารไปถึงส่วนงานต่างๆ ดังนั้นเราจะใช้การถ่ายทอดเป็นสเต็ปๆ สู่ทีมที่ทำหน้าที่ดูแลตรงกับส่วนงานนั้นๆ แล้วเราค่อยทำแบบสำรวจเพื่อตามเช็กฟีดแบ็กว่าคนของเรามีความเข้าใจในเรื่องนั้นๆ ที่สื่อสารไปมากแค่ไหน
เราเชื่อว่าการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะต้องเป็น 2-way Communications ดังนั้นสำหรับพนักงานคนไหนที่มีเรื่องอยากปรึกษากับทีม HP โดยตรง เราก็มีหลายช่องทางเพื่อพูดคุยและวัดอุณหภูมิของพนักงานอยู่ตลอด เขาก็จะสามารถติดต่อแจ้งเรื่องที่สงสัยเข้ามาได้เลย อย่างเรื่องสวัสดิการก็ส่งหา People Life พิมพ์เรื่องกับรหัสพนักงานส่งเข้ามา ทางทีม HP เราก็จะติดต่อกลับภายใน 1 วันเพื่อให้คำปรึกษาและแนะนำ"
ฝ่าย HP ช่วยดูแลชาวเงินติดล้อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีรอบด้านอย่างไรบ้าง
"ไหนๆ ถ้าเราอยากจะดูแลเขาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี เราก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้พนักงานทุกคนของเรามี สุขภาวะที่ดีแบบครบองค์ (Well Being) ดังนั้น HP จะตั้งเป้าดูแลเขาทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพการเงิน รวมถึงมุ่งพัฒนาทักษะเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้คนของเราโตให้ทันองค์กรอยู่เสมอ
สุขภาพกาย: มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพต่างๆ อย่างงานวิ่ง TIDLOR RUN 10⁷ เพื่อกระตุ้นให้พนักงานออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพตัวเองเป็นประจำ
มีกิจกรรม วันพุธชวนคนมา Lean ที่สำนักงานใหญ่จะมีการจัดอาหารสุขภาพและผลไม้มาวางขายที่ร้าน Integrity Shop ชั้น 12A และในปีนี้เราก็ได้ขยายวงเงินประกันสุขภาพให้ครอบคลุมและดูแลพนักงานได้มากขึ้น มีการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการทำ CPR ที่ถูกต้อง เผื่อในสถานการณ์ฉุกเฉิน มีการจัดหาวัคซีนไข้หวัดใหญ่มาฉีดให้พนักงานฟรี กับโรงพยาบาลที่เราดีลเอาไว้ รวมถึงขยายการดูแลไปถึงครอบครัวของพนักงานโดยมีวัคซีนราคาพิเศษสำหรับครอบครัวพนักงานด้วย
นอกจากนี้เรายังมี NTL Club ชมรมต่าง ๆ ที่ให้พนักงานได้เสนอความต้องการสมัครเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งตอนนี้ก็มีทั้งชมรมซุมบ้า บอดี้คอมแบท โยคะ วิ่ง ฟุตบอล สนุ๊กเกอร์ แบดมินตัน และอีกหลายๆ ชมรม เช่น Board Game, E-Sport, อาสาปันรัก เป็นต้น
สุขภาพจิตใจ จริงๆ มันมีที่มาจากช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ที่ทำให้เราเห็นความสำคัญในเรื่องสุขภาพใจมากขึ้น เราจึงได้จัดให้มี
Hotline สายแคร์ เพื่อให้พนักงานโทรไปขอคำปรึกษาจากนักจิตวิทยา เพราะหลายๆ คนเครียดกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนในช่วงนั้น และเรื่องงานที่อาจจะไม่เจอกัน ไม่ได้คุยกันต่อหน้า ซึ่งผลตอบรับจากพนักงานตอนนั้นคือดีมากๆ มีพนักงานโทรเข้ามาปรึกษาเป็นจำนวนมาก เราเลยคงกิจกรรมนี้ไว้อย่างต่อเนื่อง และเพิ่มเติมด้วยการจัด
กิจกรรมสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับสุขภาพใจ ที่เราจัดกิจกรรม Happy Time ที่เชิญ ดร. ปลานิล สัตกร วงศ์สงคราม มาพูดคุยให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเรื่องสุขภาวะทางอารมณ์ และวิธีการจัดการกับความเครียด นอกจากนี้ชาวเงินติดล้อทุกคนก็สามารถพูดคุยปรึกษากับทาง HP ทุกคน เพื่อขอคำแนะนำเทคนิคในการให้คำปรึกษากับน้องๆ ในทีมได้
สุขภาพการเงิน เพราะเราเป็นบริษัททางการเงินที่อยากให้ทุกคนในสังคมเข้าถึงบริการทางการเงินที่เป็นธรรมและโปร่งใส เราก็จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เริ่มตั้งแต่มีการจัดอบรมให้
ความรู้เรื่องการเงิน กับพนักงานของเราตั้งแต่วันแรกอย่างจริงจัง และถ้ามีเรื่องฉุกเฉินเรามี…
สวัสดิการเงินกู้ฉุกเฉิน ซึ่งก่อนให้กู้เราจะมีขั้นตอนการสัมภาษณ์ ต้องตอบคำถามชี้แจงอย่างละเอียด เพราะเราเป็นห่วงและต้องการรับรู้ปัญหาจริงๆ การให้เงินไปมันไม่ใช่ทางออกที่จบได้จริง ถ้าตอนสัมภาษณ์เราเห็นว่าเค้ามีปัญหา ก็ต้องสอบถามความสมัครใจเพื่อส่งต่อเคสไปยัง
ทีม Financial Education เข้าโปรแกรมที่จะช่วยทำให้เค้าหลุดพ้นจากวงจรหนี้ได้จริง
นอกจากนี้เรายังมีการพัฒนาเสริมทักษะให้ชาวเงินติดล้อตลอดตาม
CV ข้อที่ 5 : กระหายการเรียนรู้ อย่างการส่งพนักงานไปเพิ่มทักษะจำเป็นต่างๆ โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นพนักงานระดับสูงเท่านั้น คือเราพิจารณาจากศักยภาพและทักษะของงานเป็นหลัก สำหรับภายในองค์กรเราก็มีการจัดอบรม
HO Career เป็นโปรแกรมการเรียนรู้ในการพัฒนาคนอย่างเป็นระบบของพนักงานสำหนักงานใหญ่ ที่ทาง People Learn จัดเตรียมให้เรียนไล่ลำดับขึ้นไป โดยพิจารณาจาก Position Level และ Function ของงาน ซึ่งนอกจากหลักสูตรที่เป็นแกนหลักแล้ว เราก็จะหาสิ่งใหม่ๆ มาเสริมให้คนของเราเรื่อยๆ โดยดูจาก Future Trend ความต้องการที่มีมากขึ้นในอนาคต ซึ่งบางหลักสูตรน้องๆ ที่ไม่ได้อยู่แผนกตรง ก็สามารถเรียนข้ามฟังก์ชันเพื่อกลับมาช่วยพัฒนากระบวนการทำงานในสายงานตัวเองได้ แถมล่าสุดเราก็จัดกิจกรรม
TIDLOR Hackathon ด้วย เพื่อให้พนักงานได้ท้าทายศักยภาพตัวเอง และพัฒนาฝึกฝนตัวเองไปสู่อีกขั้น ซึ่งก็ได้รับฟีดแบ็กดีมากๆ และคิดว่าปีหน้าๆ ก็จะจัดขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน
สำหรับทีมสาขาเราก็ไม่ได้ให้ความสำคัญน้อยไปกว่ากัน เพราะว่ามีการจัดหลักสูตร Skill Set ให้เรียน นอกจาก Training ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเป็นพนักงานสาขา หลังจากนั้นเราจะมีการวาง Career ให้เติบโตเป็นระดับขั้น ซึ่งก็ต้องเรียนรู้ทักษะต่างๆ เพิ่มเติม มีการถูกฝึกประสบการณ์โดยกำหนดตามลำดับขั้นและอายุการทำงานของแต่ละตำแหน่ง เริ่มตั้งแต่เจ้าหน้าที่บริการลูกค้าไปจนถึงผู้จัดการสาขาและผู้จัดการพื้นที่ เป็นการเรียนแบบไล่ลำดับ Bronze, Silver, Gold เมื่อเทรนผ่านครบทั้งสามลำดับเหรียญแล้ว ก็จะขยับไปเทรนในตำแหน่งที่สูงขึ้นเติบโตไปอีกระดับ เมื่อจะเลื่อนขั้นก็จะมี Leadership Development Program คอยฟูมฟักให้เข้าใจบทบาทของการเป็นหัวหน้าและการเป็นผู้นำที่ดีให้เรียนรู้ด้วย"
รางวัลสะท้อนความสำเร็จและเป้าหมายของทีม
"จริงๆ ต้องบอกว่าเป้าหมายของเราไม่ใช่เพื่อรางวัล แต่สิ่งที่เราทำทั้งหมดนี้เราทำเพราะอยากให้พนักงานมีความสุข ไม่ได้จำกัดว่าเค้าต้องทำตามอย่างที่บริษัทบอกเท่านั้น เราเลยเปิดกว้างเพื่อรับฟังความเห็นความต้องการของพนักงานว่าเค้าอยากได้รับการสนับสนุนอะไร เราก็จะนำมาพิจารณาและดีไซน์ให้ตอบสนองกับสิ่งที่เค้าต้องการตามที่บริษัทซัพพอร์ตได้ เพื่อให้เค้าได้มีความสุขในแบบของเค้า สามารถ Deliver งานที่ตัวเองต้องทำได้อย่างแฮปปี้ และตอบสนองเป้าหมายของบริษัทได้ด้วย ไม่ใช่มาทำงานแค่เพื่อมาทำงาน คือเราเริ่มจากอยากทำสิ่งดีๆ ให้เกิดกับคนของเราก่อน แล้วรางวัลมันจะตามมาเอง"
รู้หรือไม่?
กิจกรรม
TIDLOR RUN 10⁷ นอกจากจะช่วยส่งเสริมสุขภาพกายและใจที่ดีให้กับชาวเงินติดล้อแล้ว ยังเป็นโจทย์สำหรับกัปตันและรองกัปตันให้สามารถดึงศักยภาพและพัฒนาทักษาความเป็นผู้นำ (Leadership) ด้านต่างๆ ทั้งการสื่อสาร การวางแผน หรือการสร้างแรงบันดาลใจให้สมาชิกในทีมร่วมกันซ้อม ซ้อม ซ้อม เพื่อเป้าหมายร่วมกันของทีมคือพิชิต 10 กิโลเมตรให้ได้ในเวลาที่กำหนด
ปัจจุบันเงินติดล้อ มีโครงการเปิดบ้านแชร์วัฒนธรรมองค์กร เพื่อเปิดโอกาสให้องค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้เข้ามาเยี่ยมชมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การสร้างวัฒนธรรมองค์กรเงินติดล้อ หากสนใจ สามารถดูรายละเอียดได้
ที่นี่