โพสต์ขายของออนไลน์ใน facebook ยังไงให้ปังลูกค้ากดแชร์กดไลค์

การเขียนคอนเทนต์เพื่อโพสต์ขายของออนไลน์ใน facebook เรียกได้ว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าในร้านค้าของคุณ เพราะการเขียน Content Marketing คือการเล่าเรื่องราวให้ลูกค้าเห็นภาพว่าสินค้าชิ้นนั้นจะตอบโจทย์อะไรในชีวิตบ้าง ซึ่งการเขียนคอนเทนต์ว่ายากแล้วใช่ไหมครับ การคิดพาดหัวหรือหัวข้อบทความก็ยากเหมือนกัน เพราะคุณมีโอกาสเพียงแค่ 3 วินาทีเท่านั้นที่จะทำให้คนอ่านติดกับดักด้วย Heading แล้วอ่านโพสต์ขายของชิ้นนั้นจนจบ แล้วจะเขียนโพสต์ขายของออนไลน์ยังไงให้ปัง อ่านเลย!

ทำไมมีเวลาแค่ 3 วินาทีในการเขียนโพสต์ขายของออนไลน์ให้ปัง?

คุณเคยสังเกตพฤติกรรมการเล่นโซเชียลของตัวเองบ้างไหมว่าเป็นแบบไหน ใช้นิ้วโป้งเลื่อนผ่านแต่ละโพสต์ขายของออนไลน์ใน facebook ด้วยความเร็วกี่ครั้งต่อวินาที บางคนกดไลค์เพราะถูกดึงดูดด้วยรูปโฆษณาสินค้าสวยๆ แล้วค่อยอ่านเนื้อความทีหลัง บางคนก็เลื่อนผ่านไปเลยเพราะหัวข้อคอนเทนต์ไม่ดึงดูด

รูปแบบการแสดงผลเวลาโพสต์ขายของใน facebook จะโชว์แค่รูปสินค้าที่ใส่ไปกับโพสต์เบื้องต้นแค่ 1-3 บรรทัด เรียกได้ว่าถูกลดการมองเห็นแบบเต็มรูปแบบ บางคนโพสต์คอนเทนต์ขายของแค่เพียวๆ ไม่มีรูปดึงดูดด้วยซ้ำ คุณจึงมีเวลาแค่ 3 วินาทีในการดึงดูดลูกค้าด้วยการเขียนพาดหัวโพสต์ขายของ

เพราะถ้าชื่อหัวข้อบทความสะดุดตา อ่านแล้วสะดุดใจ ทำให้คนเลื่อนผ่านหยุดชะงัก โอกาสที่จะถูกคลิกอ่านแบบเต็มบทความ ถูกกดไลค์กดแชร์ หรือคอมเมนต์ก็มีมากขึ้น ดังนั้น จะเขียนโพสต์ขายของออนไลน์ให้ปังๆ ต้องสรุปเรื่องราวที่คุณจะสื่อให้ลูกค้าเข้าใจภายในประโยคเดียว ว่าแต่ต้องทำอย่างไร?

เขียนโพสต์ขายของออนไลน์ใน facebook ให้ปังด้วย 5W 1H

เงินติดล้อเชื่อว่าร้านค้าต่างก็งัดกลยุทธ์ที่มีมาใช้เต็มที่เพื่อให้ยอดขายสินค้าในร้านเพิ่มขึ้น เช่น ไลฟ์สดขายของพร้อมแจกโปรโมชั่น คิด​สโลแกนร้านค้าให้แตกต่างจากคนอื่นเพื่อดึงดูด แต่ก็ยังไม่มีแววว่าจะเพิ่มยอดขายได้เลย อีกหนึ่งหนทางคือเขียนคอนเทนต์ขายของ ซึ่งจะเขียนโพสต์ขายของให้ปังต้องใช้หลัก 5W 1H

ซึ่งหลัก 5W 1H คือเครื่องมือในการวิเคราะห์สถานการณ์ด้วยชุดคำถามเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างตรงประเด็น ดังนั้น การเขียนคอนเทนต์ หรือทำ Content Marketing ทุกประเภท จึงหยิบหลักการ 5W 1H มาใช้งาน ซึ่ง 5W 1H จะประกอบไปด้วย

• What = ทำอะไร : จะนำเสนออะไรให้คนที่ได้รับคอนเทนต์นี้
• Who = ใคร : คุณต้องการสื่อสารกับใครในคอนเทนต์นี้ เช่น วัยทำงาน วัยเรียน แม่บ้าน
• Why = ทำไม : ทำไมถึงเกิดปัญหานี้ขึ้น เช่น หมุนเงินไม่ทัน เพราะเศรษฐกิจไม่ดีใช่ไหม
• When = เมื่อไหร่ : ปัญหาที่เกิดขึ้นมีตั้งแต่เมื่อไหร่ เช่น เมื่อ 2 เดือนที่แล้วและโดนเก็บดอกเบี้ยเรื่อยๆ
• Where = ที่ไหน : ปัญหาเกิดขึ้นที่ไหน เช่น เกิดขึ้นจากการกู้เงินนอกระบบ เลยมีดอกเบี้ยสุดโหด
• How = อย่างไร : แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างไร เช่น กู้สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ กู้สินเชื่อทะเบียนรถบรรทุก

นี่คือการตั้งคำถามก่อนเริ่มทำ Content Marketing เพื่อให้โพสต์ขายของออนไลน์ของคุณช่วยตอบคำถามให้กับผู้อ่านได้มากขึ้นครับ แต่แค่เนื้อเรื่องยังไม่พอ ต้องตบท้ายด้วยการเขียนพาดหัวแบบดึงดูดเพิ่มเติมด้วย

เขียนพาดหัวโพสต์ขายของออนไลน์ยังไงให้สะดุดตาสะดุดใจ

จริงๆ แล้วการเขียนโพสต์ขายของออนไลน์ให้หัวเรื่องดึงดูดสามารถนำหลัก 5W 1H มาปรับใช้ได้ แต่ถ้าใช้ทั้ง 5W 1H มาเขียนพาดหัวบทความอาจดูรกรุงรังจนเกินไป และคุณมีเวลาเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้นเอง! ดังนั้น เลือกมาสัก 1-2 ข้อจะดีกว่า ซึ่งการเขียนโพสต์ขายของออนไลน์ให้น่าสนใจ คือ

เขียนคอนเทนต์แล้วเปิดหัวเรื่องด้วยการตั้งคำถามหรือข้อความคลิกเบทที่สะดุดตา จะทำให้โพสต์ขายของออนไลน์โพสต์นั้นได้รับความสนใจมากขึ้น วิธีนี้เป็นการเล่นกับพื้นฐานนิสัยของมนุษย์คืออยากรู้อยากเห็น อยากได้คำตอบ การพาดหัวคอนเทนต์ด้วยการตั้งคำถามเลยกระตุ้นให้ผู้อ่านอยากอ่านจนจบ

ซึ่งการตั้งคำถามจะนำไปสู่การถกเถียงใต้คอมเมนต์ กลายเป็นว่าโพสต์ขายของออนไลน์โพสต์นั้นจะมีทั้งคนกดไลค์ กดแชร์ และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ยิ่งถ้าหัวข้อบทความผสมโรงด้วยข้อความคลิกเบทก็จะไปกระตุ้นให้ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยการตั้งชื่อหัวข้อบทความที่เป็นคำถามจะประกอบไปด้วยคำจำพวก

• ทำไมต้อง
• รู้ไว้ใช่ว่า
• รู้หรือไม่
• อ่านด่วนก่อนโดนลบ!

เขียนโพสต์ขายของออนไลน์ใน Facebook ให้ปังก็ต้องเป็นกันเอง ในกรณีต้องดูด้วยนะครับว่าในเริ่มต้นแบรนด์วางภาพลักษณ์ไว้แบบใด หากมีภาพลักษณ์เป็นกันเองและกึ่งทางการมาตั้งแต่เริ่ม ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้เลย หากเป็นองค์กรใหญ่และทางการ การเป็นกันเองในโพสต์ขายของอาจจะขัดกับภาพลักษณ์ของแบรนด์

ซึ่งความเป็นกันเองนี้จะทำให้ผู้อ่านรับรู้ได้ว่าเรื่องราวที่ถูกเล่าในการเขียนคอนเทนต์นั้นเกิดขึ้นจริงๆ คนเล่ามีตัวตนจริงๆ สามารถสัมผัสได้ผ่านตัวอักษรในคอนเทนต์เพราะความเป็นกันเอง เหมือนอ่านเรื่องเล่าของเพื่อน อีกทั้งการเขียนสรรพนามเป็นกันเองก็จะช่วยให้บทความไหลไปได้เรื่อยๆ แบบไม่สะดุดอีกด้วย

อย่างที่บอกไปแล้วว่าการเขียนพาดหัวเรื่องคือการสรุปให้ผู้อ่านเข้าใจในประโยคเดียวว่าคอนเทนต์ขายของ หรือ Content Marketing ที่โพสต์ลง Facebook นั้นกำลังจะสื่ออะไร เป็นการสปอยล์เนื้อหาในเบื้องต้น ดังนั้น การใช้ตัวเลขมาผสมโรงในการเขียนพาดหัวคอนเทนต์จึงทำให้ผู้อ่านอยากรู้อยากเห็นจนต้องกดอ่าน โดยตัวเลขที่นำมาเขียนหัวข้อเพื่อโพสต์ลงใน Facebook สามารถใช้ลูกเล่นเหล่านี้ได้เลย

• บอกต่อ 10 วิธี
• รวมมาแล้วกับสุดยอดเคล็ดลับปี 2022
• แค่ 14 วันก็ทำได้!

สรุป

การมีเงินสดสำรองไว้จะทำให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เงินสดใกล้หมด คุณต้องรีบหาเงินก้อนใหม่เพื่อมาทำให้ธุรกิจไม่ล้มละลายครับ ซึ่งก็มีหลายวิธี เช่น เคลียร์สินค้าเก่าในสต๊อกด้วยการลดราคาที่ยอดขาดทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งเงิน เจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอผ่อนผันหนี้ไปก่อน หากทำแล้วเงินสดยังลดลงเรื่อยๆ อีกหนึ่งหนทางที่จะช่วยเซฟธุรกิจไม่ให้ล้มละลายคือการขอสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ เพราะเป็นการขอสินเชื่อที่ได้เงินก้อนไวไม่ต้องรอนาน ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และทั้งคุณยังมีรถไว้ขับ มีเงินก้อนไปใช้จ่ายด้วย