นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับพันธมิตรทางธุรกิจ คู่ค้า และผู้มาติดต่อ
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (ใช้คำเรียกแทนว่า "นโยบาย" หรือ "ประกาศ") ออกโดย บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) (ใช้คำเรียกแทนว่า "บริษัท" หรือ "ของบริษัท") เพื่อแจ้งพันธมิตรทางธุรกิจ คู่ค้า และผู้มาติดต่อ ที่บริษัทติดต่อด้วย ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทต้องใช้ในการประกอบธุรกิจของบริษัท ได้แก่ (1) พันธมิตรที่ร่วมประกอบธุรกิจหรือคู่ค้าซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา (2) ผู้ค้า ซัพพลายเออร์ หรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา (3) บุคคลที่มาติดต่อ รวมทั้ง (4) บุคคลที่มีอำนาจดำเนินการ ผู้แทนของบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจให้มาติดต่อธุรกิจหรือทำธุรกรรมเป็นครั้งคราว ผู้ถือหุ้น ตัวแทน ลูกจ้าง บุคลากร และบุคคลอื่นใดก็ตามที่มีฐานะเหมือนที่กล่าวมาแล้ว (ทั้งหมดนี้เรียกว่า "ผู้แทน") ของ (ก) พันธมิตรที่ร่วมประกอบธุรกิจหรือคู่ค้า (ข) ผู้ค้า ซัพพลายเออร์ หรือผู้ให้บริการ (ทั้งหมดนี้เรียกว่า "พันธมิตรทางธุรกิจ") ทั้งนี้ บุคคลธรรมดาและบุคคลทุกคนที่กล่าวถึงข้างต้นนั้น ในประกาศฉบับนี้บริษัทจะใช้คำว่า "คุณ" หรือ "ของคุณ" ได้ทราบถึงจุดประสงค์ของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย และ/หรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ รวมถึงสิทธิและทางเลือกเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะที่คุณเป็นเจ้าของข้อมูล และเราได้แจ้งวิธีติดต่อบริษัทไว้หากคุณมีข้อสงสัย
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับคุณตามที่ระบุไว้ต่อไปนี้ ซึ่งจะระบุตัวบุคคลหรือใช้ระบุตัวบุคคลได้ ทั้งนี้ หากได้รวบรวมข้อมูลอื่น ๆ เข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือนำข้อมูลอื่น ๆ มาใช้จัดทำข้อมูลประวัติบุคคล บริษัทจะถือว่าข้อมูลอื่น ๆ และข้อมูลที่นำมารวมกันนั้นเป็นข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ที่ได้รับจากคุณโดยตรง หรือโดยทางอ้อมจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ หรือได้รับจากบริษัทในเครือและบริษัทอื่น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริบทการดำเนินการระหว่างคุณกับบริษัท โดยอาศัยข้อกำหนดทางกฎหมาย ได้แก่ (1) เพื่อปฏิบัติตามสัญญาสำหรับให้บริการหรือทำธุรกรรมกับคุณ (2) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท (3) เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบุคคลอื่น (4) หลักความสำคัญเพื่อป้องกันหรือระงับมิให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ (5) ผลประโยชน์สาธารณะ เพื่อดำเนินการอันเป็นสาธารณประโยชน์ หรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ หรือ กรณีที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมสำหรับดำเนินกิจกรรมบางอย่างในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ บริษัทจะดำเนินการขอรับความยินยอมจากคุณสำหรับกิจกรรมดังกล่าวแยกต่างหาก โดยบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
-
(1) กรณีที่คุณเป็นบุคคลธรรมดา
-
(2) กรณีที่คุณเป็นผู้แทนพันธมิตรทางธุรกิจ
- (3)
ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น
หากคุณได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นไว้กับบริษัทหรือผู้ให้บริการของบริษัท เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกในคณะกรรมการบริษัทของคุณ เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง หรือบุคคลที่ติดต่อ หรือคุณขอให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่กล่าวถึงข้างต้นแก่บุคคลภายนอก คุณต้องรับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดประกาศฉบับนี้ให้บุคคลเหล่านั้นทราบด้วย และต้องขอความยินยอมจากบุคคลภายนอกคนนั้นด้วย (กรณีที่กำหนดไว้ว่าต้องได้รับความยินยอม) นอกจากนี้ คุณยังมีหน้าที่ดำเนินการเพื่อให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านั้นได้โดยชอบด้วยกฎหมายตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้
- (4)
ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ ผู้ไร้ความสามารถ และผู้เสมือนไร้ความสามารถ
ในกรณีที่บริษัทมีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลของผู้เยาว์ ผู้ไร้ความสามารถ และผู้เสมือนไร้ความสามารถ และต้องมีการขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวบริษัทจะมีการขอความยินยอมจากจากผู้ปกครองซึ่งมีอำนาจกระทำแทนผู้เยาว์ ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล เท่านั้นตามลำดับ เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทสามารถอ้างเหตุผลทางกฎหมาย อื่นๆ ได้ กรณีถ้าบริษัททราบภายหลังว่าได้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองซึ่งมีอำนาจกระทำแทนผู้เยาว์ หรือกรณีของผู้ไร้ความสามารถ ผู้เสมือนไร้ความสามารถซึ่งไม่ได้รับความยินยอมจาก ผู้พิทักษ์ ผู้อนุบาล ตามลำดับ โดยที่บริษัทไม่รู้ข้อเท็จจริงดังกล่าว บริษัทจะลบข้อมูลนั้นทันที หรือจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลดังกล่าวก็ต่อเมื่อบริษัทสามารถอ้างเหตุผลทางกฎหมายส่วนอื่นนอกจากความยินยอมได้เท่านั้น
- (5)
ไฟล์คุกกี้
บริษัทอาจใช้และเก็บไฟล์คุกกี้และระบบอื่นในอุปกรณ์ของคุณ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบความปลอดภัยจากการให้บริการของบริษัท และเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้บริการทั่วไปของบริษัท ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากการใช้คุกกี้นั้นจะไม่เชื่อมโยงกับข้อมูลที่อาจระบุตัวบุคคล (เช่น ชื่อหรืออีเมลของคุณ) อย่างไรก็ตาม หากบริษัทจำเป็นต้องนำข้อมูลส่วนบุคคลเชื่อมโยงกับคุกกี้หรือเชื่อมกับข้อมูลอื่นที่เกี่ยวกับการใช้บริการของคุณ บริษัทจะถือว่าคุกกี้ดังกล่าวและข้อมูลที่รวมเข้าด้วยกันนั้นเป็นข้อมูลส่วนบุคคลด้วย
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน
บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนของคุณก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากคุณอย่างชัดเจนด้วยวิธีการที่เหมาะสม เพื่อปฏิบัติตามสัญญาจ้าง สร้างสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย นำมาต่อสู้ ทำตามหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ทำหน้าที่ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะที่สำคัญตามกฎหมาย หรือเรื่องอื่นๆ ที่กฎหมายกำหนดไว้
ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา |
โดยทั่วไป การเข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ คู่ค้า กับคุณนั้น บริษัทจะไม่ขอข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา จากคุณ อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ บริษัทอาจได้รับข้อมูลเกี่ยวกับศาสนาจากคุณเมื่อบริษัทสแกนบัตรประจำตัวประชาชนของคุณเพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการทำสัญญาโดยเป็นกรณีที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ ในกรณีเช่นว่านี้ บริษัทจะรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเกี่ยวกับศาสนาของคุณตามกฎหมายที่ใช้บังคับ ทั้งนี้ โดยอาศัยฐานทางกฎหมายที่เหมาะสม |
ข้อมูลประวัติอาชญากรรม |
บริษัทอาจการเก็บรวบรวมและใช้บันทึกประวัติอาชญากรรมของคุณเพื่อค้นหาและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายและกระทำการทุจริต รวมทั้งดำเนินคดีเมื่อมีเหตุดังกล่าว |
ข้อมูลชีวภาพ |
บริษัทอาจเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลทางร่างกาย เช่น ลายนิ้วมือ และการจดจำใบหน้า |
- ช่องทางการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่
- (1)
ช่องทางการประกอบธุรกิจของบริษัท บริษัทอาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณผ่านช่องทางการประกอบธุรกิจระหว่างคุณและบริษัท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจออฟไลน์ ออนไลน์ หรือการประกอบธุรกิจด้วยระบบทางไกล (เช่นทางโทรศัพท์ เว็บไซต์ อีเมล หรือไปรษณีย์)
- (2)
ช่องทางอื่น บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณผ่านช่องทางอื่น เช่น ผ่านผู้ให้บริการที่บริษัทว่าจ้างให้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลในนามบริษัท บริษัทในเครือ ฐานข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลของภาครัฐ (เช่น หน่วยงานภาครัฐที่มีฐานข้อมูลที่น่าเชื่อถือของบุคคล) ผู้แทนของคุณ หรือบุคคลอื่นที่ได้รับมอบอำนาจจากคุณและจากบุคคลอื่นที่กระทำการแทนคุณ
- จุดประสงค์การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งได้เก็บรวบรวมไว้โดยมีจุดประสงค์หลายอย่าง ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณได้ติดต่อดำเนินการกับบริษัทดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ จุดประสงค์ต่าง ๆ ตามที่ได้ระบุไว้ต่อไปนี้เป็นเพียงขอบเขตหลักปฏิบัติของบริษัทในการใช้ข้อมูล และมีจุดประสงค์บางข้อที่เกี่ยวข้องกับคุณเท่านั้นที่จะมีผลกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
- จุดประสงค์สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของคุณ
การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาที่มีกับคุณ |
การปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากมีความสัมพันธ์ตามที่มีสัญญากับคุณหรือมีสัญญากับบริษัทที่คุณทำงาน ที่คุณได้รับการว่าจ้าง หรือที่คุณถือหุ้นอยู่ รวมทั้งคุณจะมีความผูกพันตามสัญญา การปฏิบัติหน้าที่ทำธุรกรรมต่าง ๆ การชำระเงิน การเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ การทำบัญชี ตรวจสอบ เรียกเก็บเงิน และติดตามหนี้ การให้บริการสนับสนุนและการปฏิบัติหน้าที่ทางธุรกิจอื่น ๆ การสนับสนุนเมื่อมีประเด็นปัญหา และการเลิกสัญญากับคุณ |
การพิสูจน์ตัวตน |
การตรวจสอบประวัติความเป็นมาและตัวตน |
การติดต่อสื่อสาร |
การติดต่อสื่อสารกับคุณหรือบริษัทที่คุณทำงาน ที่คุณได้รับการว่าจ้าง หรือที่คุณถือหุ้นอยู่ซึ่งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ การดำเนินงาน การทำการตลาด หรือการสนับสนุนทางธุรกิจของบริษัท และตอบข้อซักถาม หรือตามคำร้องขอผลิตภัณฑ์หรือบริการ |
การติดต่อสื่อสาร |
การติดต่อสื่อสารกับคุณหรือบริษัทที่คุณทำงาน ที่คุณได้รับการว่าจ้าง หรือที่คุณถือหุ้นอยู่ซึ่งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ การดำเนินงาน การทำการตลาด หรือการสนับสนุนทางธุรกิจของบริษัท และตอบข้อซักถาม หรือตามคำร้องขอผลิตภัณฑ์หรือบริการ |
การวิเคราะห์ข้อมูลและการบำรุงรักษา |
การตรวจหาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตฉ้อฉล การทำธุรกรรมที่ทุจริตฉ้อฉล และกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีลักษณะทุจริตฉ้อฉล รวมทั้งความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย |
การปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์และการบริการ |
การปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ |
การปฏิบัติตามกฎหมายและจุดประสงค์ทางธุรกิจ |
การปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ การต่อสู้คดีแพ่ง คดีอาญา หรือการฟ้องร้องเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การดำเนินการเมื่อมีหมายเรียกพยาน หรือการสืบสวน การใช้สิทธิของบริษัทเมื่อมีข้อเรียกร้องตามกฎหมาย (รวมทั้งการติดตามหนี้และการเรียกคืนเงินสำหรับบัญชีที่เกินกำหนดชำระ) การแก้ไขข้อร้องเรียนและยุติข้อพิพาท การตรวจสอบ การศึกษาทบทวนเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการและการประกันภัย การวิเคราะห์ความเสี่ยงเครดิต การรายงานผลเกี่ยวกับสินเชื่อ การรายงานตามข้อกำหนดของกฎหมาย การควบคุมความเสี่ยงของสถาบัน การปรับปรุงข้อมูลของลูกค้าให้เป็นปัจจุบัน การเก็บบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ การดำเนินการอื่นใดเพื่อประกอบธุรกิจ บริหารจัดการ และรักษาธุรกิจของบริษัท |
- จุดประสงค์สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนเฉพาะ เมื่อบริษัทได้รับความยินยอมจากคุณอย่างถูกต้องเท่านั้น หรือขอใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ใช้ต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ปฏิบัติตามหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ก่อให้เกิดประโยชน์โดยรวม หรือกรณีอื่นใดที่กฎหมายกำหนดไว้ กรณีที่บริษัทต้องได้รับความยินยอมจากคุณ บริษัทจะขอความยินยอมจากคุณโดยใช้วิธีการที่เหมาะสม
ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา |
เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการทำสัญญา เพื่อตรวจสอบตัวตนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท และเพื่อส่งสำเนาบัตรประชาชนให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประกอบการกับคุณ |
ข้อมูลประวัติอาชญากรรม |
เพื่อค้นหาและป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมายและการทุจริต รวมทั้งเพื่อใช้ดำเนินคดีเมื่อมีเหตุเกิดขึ้น |
ข้อมูลชีวภาพ |
เพื่อรับรองความถูกต้องและยืนยันตัวตน และดำเนินการตรวจสอบตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อสร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ |
- บุคคลที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้บุคคลดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณได้ติดต่อดำเนินการกับบริษัทและลักษณะการประกอบธุรกิจกับบริษัท
บริษัทในเครือ |
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้บริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มกรุงศรี รวมถึงบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงิน และบริษัทในเครือ และรวมถึงธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (MUFG Bank, Ltd.) และบริษัทในกลุ่ม MUFG ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศอื่น ๆ |
ผู้ให้บริการ |
บริษัทอาจว่าจ้างบริษัทอื่นให้เป็นผู้ให้บริการแทนบริษัทและสนับสนุนการประกอบธุรกิจของบริษัท บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้บริษัทผู้ให้บริการเหล่านี้ หรือบริษัทผู้ให้บริการดังกล่าวอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในนามบริษัท เพื่อใช้ตามจุดประสงค์ของธุรกิจต่าง ๆ เช่น บริษัท ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และเว็บไซต์ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการจัดส่ง/นำส่งพัสดุ |
ที่ปรึกษาวิชาชีพ |
บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ที่ปรึกษาวิชาชีพด้านการตรวจสอบ กฎหมาย บัญชี และการบริการทางภาษี ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือในการประกอบธุรกิจของบริษัท ช่วยต่อสู้คดีให้บริษัท หรือช่วยฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เริ่มและบริหารจัดการการขายทอดตลาด หรือดำเนินการเรื่องอื่นใดทางกฎหมาย |
บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมขององค์กร |
บริษัทอาจต้องเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้พันธมิตรทางธุรกิจ นักลงทุน ผู้ถือหุ้นที่มีนัยสำคัญ ผู้รับโอนสิทธิ บุคคลที่จะได้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอน หรือบุคคลที่จะเป็นผู้รับโอนกรณีปรับโครงสร้างองค์กร หรือปรับโครงสร้างหนี้ การควบรวมกิจการ การได้มาซึ่งกิจการ การจำหน่าย การซื้อ การร่วมทุน การโอนสิทธิ การเลิกกิจการ หรือเหตุการณ์อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันและมีการโอนหรือจำหน่าย ทั้งธุรกิจ สินทรัพย์ หรือหุ้นบริษัทบางส่วน หรือหุ้นทั้งหมด |
หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานอื่นที่บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามความจำเป็น |
บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้กับหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่กำกับดูแล (เช่น กรมสรรพากร หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานกำกับดูแลและศาล) และหน่วยงานอื่นตามกระบวนการทางกฎหมาย การกำกับดูแลและจุดประสงค์ที่สำคัญอื่นใด และอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลหรือหน่วยงานภาครัฐร้องขอตามข้อบังคับของกฎหมาย การปฏิบัติตามคำสั่งทางกฎหมาย การตรวจสอบ หรือกระบวนการทางกฎหมาย/การฟ้องร้อง |
- การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ (หากมี)
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้บริษัทในเครือ บุคคลภายนอก หรือเครื่องแม่ข่าย (Server) ที่อยู่ในต่างประเทศ (เช่น ประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร) เพื่อจะได้ดำเนินการต่าง ๆ ตามกฎหมาย ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณบางรายอาจอยู่ในประเทศอื่น ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติยังไม่ได้ประกาศเป็นประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ เมื่อบริษัทจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังประเทศที่ไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเทียบเท่ากับประเทศไทย บริษัทจะดำเนินการเพื่อให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอย่างเพียงพอสำหรับข้อมูลที่ได้โอนไป หรือเพื่อให้การโอนนั้นดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับได้ เช่น บริษัทอาจขอให้บุคคลภายนอกที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้โอนไปแล้วนั้นตกลงกับบริษัทเพื่อให้คำรับรองว่าข้อมูลนั้นจะได้รับความคุ้มครองตามมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเทียบเท่ากับข้อกำหนดในประเทศไทย
- ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้นานเท่าที่จำเป็น เพื่อใช้ตามจุดประสงค์การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เป็นไปตามรายละเอียดในประกาศและกฎหมายที่ใช้บังคับ โดยบริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่คุณสิ้นสุดความสัมพันธ์ หรือผ่านการติดต่อครั้งสุดท้ายกับบริษัทไปแล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้นานกว่านั้น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ หรือตามนโยบายบริษัท หรือตามข้อกำหนดเรื่องการปฏิบัติงานของบริษัท เช่น เรื่องการเก็บข้อมูลทางบัญชีที่เหมาะสม การอำนวยความสะดวกเพื่อบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า และเพื่อใช้ดำเนินการตามข้อเรียกร้องทางกฎหมาย หรือกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลร้องขอ
- สิทธิของคุณ
ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องคุณ มีอาจมีสิทธิตามที่ระบุดังต่อไปนี้
- (1)
สิทธิในการเข้าถึง คุณมีสิทธิตรวจสอบข้อมูลที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ การเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือขอทราบที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณไม่ได้ให้ไว้กับบริษัทโดยตรง
- (2)
สิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนตัวของคุณให้ถูกต้อง หากคุณเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่สมบูรณ์ คุณอาจขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนตัวดังกล่าวได้
- (3)
สิทธิในการลบหรือทำลาย คุณมีสิทธิขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลของคุณที่บริษัทเก็บรวบรวม ให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ แต่ทั้งนี้ ต้องไม่กระทบกระเทือนต่อ สิทธิของผู้อื่น ความมั่นคงปลอดภัย สัญญาที่มีอยู่ต่อบริษัท รวมถึงเป็นเป็นการขัดต่อกฎหมาย
- (4)
สิทธิในการระงับใช้ คุณอาจมีสิทธิขอให้ระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในกรณีที่เห็นว่าข้อมูลของคุณไม่ถูกต้องเหมาะสม หรือขอระงับการลบ/ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
- (5)
สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ถ้ากฎหมายได้ให้สิทธิไว้ คุณมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจากบริษัทในรูปแบบที่สามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น โดยต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณได้ให้ไว้กับบริษัท และ (ข) กรณีบริษัทได้รับความยินยอมจากคุณหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่มีกับคุณ
- (6)
สิทธิในการคัดค้าน คุณมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เช่นการคัดค้านการตลาดแบบตรง
- (7)
สิทธิในการขอถอนความยินยอม หากคุณได้ยินยอมให้มีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ คุณมีสิทธิขอยกเลิกความยินยอมเมื่อไหร่ก็ได้
- (8)
สิทธิในการร้องเรียน คุณมีสิทธิร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ทั้งที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินการดังกล่าว หรือกรณีบุคคลอื่นเป็นผู้ดำเนินการในนามของบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทขอโอกาสจัดการแก้ไขสิ่งที่คุณกังวล ก่อนที่คุณจะติดต่อหน่วยงานที่มีอำนาจ บริษัทขอให้คุณติดต่อบริษัทเป็นอันดับแรก เพื่อพูดคุยแก้ไขในสิ่งที่คุณกังวล
ทั้งนี้ การขอใช้สิทธิของคุณตามที่กำหนดอาจมีข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมาย และบางกรณีบริษัทสามารถปฏิเสธคำขอของคุณเมื่อมีเหตุผลอันสมควรและเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยคุณสามารถใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นได้ตามที่อยู่ในหัวข้อ “ติดต่อสอบถาม”
- การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทอาจแก้ไข เพิ่มเติม หรือปรับปรุงประกาศฉบับนี้ให้เป็นปัจจุบันเป็นครั้งคราว กรณีที่แนวปฏิบัติหรือนโยบายบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายที่ใช้บังคับมีการเปลี่ยนแปลง บริษัทจะแจ้งให้คุณทราบ เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขอย่างครบถ้วน นอกจากนี้ บริษัทขอให้คุณอ่านประกาศฉบับนี้อย่างละเอียด และหมั่นตรวจสอบว่าบริษัทจะเปลี่ยนแปลงข้อมูลอะไรบ้างในประกาศฉบับนี้
- ติดต่อสอบถาม
บริษัทให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงผู้มาติดต่อ และมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามทุกข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยคุณสามารถติดต่อ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในการร้องเรียนเรื่องการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่อีเมล [email protected] หรือ หากท่านมีข้อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว กรุณาติดต่อ:
แผนกจัดซื้อ, บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)
สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ เลขที่ 428 อาคารอารีย์ ฮิลล์ ชั้น 9-15 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
อีเมล: [email protected]