เคยไหม? การเงินมีปัญหาต้องเป็นเดอะแบกของครอบครัว หรือต้องแบกภาระหน้าที่อันหนักอึ้งในฐานะเสาหลักของครอบครัว แม้บางครั้งแทบจะเอาตัวเองไม่รอด แต่ก็ยังต้องเป็นกำลังใจ และเป็นที่พึ่งให้กับคนที่เรารัก คนวัยทำงาน Gen Y จึงต้องเผชิญกับความเครียด ความกดดัน และการแข่งขันในสังคมที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ ผลสำรวจพบว่า คนกลุ่มนี้มีความกังวลเรื่องการเป็นเดอะแบกสูงถึง 3 ใน 10 คนเลย มาดูกันว่า เราจะมีวิธีวางแผนชีวิตยังไงให้ผ่านพ้น และต่อสู้กับช่วงเวลานี้ไปได้ โดยที่ตัวเราเองก็ยังมีกำลังใจในการใช้ชีวิต ไปพร้อมๆ กับการเป็นเสาหลักให้ครอบครัวต่อไปด้วย
สำหรับใครที่ชอบฟัง Podcast เงินติดล้อมีช่องทางให้คุณได้ติดตามความรู้เกี่ยวกับการเงินสนุกสุดเพลิดเพลินแล้ว โดยใน EP.25 Gen Y เดอะแบกของครอบครัว แบกยังไงให้ชีวิตหมุนต่อได้ มีให้บริการทั้งใน Spotify และ Podbean
ผู้ดำเนินรายการ
คุณ มิ่งขวัญ ประเสริฐศิวพร (ผู้เชี่ยวชาญการฝึกอบรมด้านการเงิน)
คุณ ปรเมษ บุญเศรษฐ (ผู้เชี่ยวชาญการฝึกอบรมด้านการเงิน)
คนวัยทำงาน Gen Y คือใครบ้าง
คนวัยทำงาน Gen Y คือ ช่วงอายุระหว่าง 26-40 ปี มักให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างเรื่องงาน กับการใช้ชีวิตส่วนตัว (Work-Life Balance) มีแนวคิดและทัศนคติที่เปิดกว้าง พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจ และสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาว Gen Y ต้องเผชิญกับความท้าทายในชีวิตมากขึ้น ทั้งในเรื่องการทำงาน ความมั่นคงทางการเงิน และการสร้างชีวิตครอบครัว ซึ่งอาจส่งผลให้วิถีชีวิตของคนกลุ่มนี้แตกต่างไปจากรุ่นก่อนหน้าเป็นอย่างมาก และมีความกังวลในชีวิตเพิ่มสูงขึ้นด้วย
สิ่งที่คนวัยทำงาน Gen Y กังวลมากที่สุด
Line Today ได้มีการสำรวจเกี่ยวกับสิ่งที่ชาว Gen Y กำลังกังวลอยู่มากที่สุด โดย 3 ใน 10 คน กำลังกังวลเรื่อง การเป็นเสาหลักที่ต้องดูแลครอบครัว และยังมีการตั้งฉายาเรียกคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะว่า “เดอะแบก” คือ กลุ่มคนที่นอกจากจะต้องดูแลตัวเองแล้ว ยังต้องรับดูแลคนในครอบครัวด้วย
ถ้าในสถานการณ์ปกติที่รายรับพอดีกับรายจ่าย เช่น มีรายได้ 15,000 บาท หักออม หักประกันสังคม ประมาณ 1,500 บาท ผ่อนโทรศัพท์ 4,000 บาท จ่ายค่าห้อง ค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ 50% เหลือกินอีก 50% มีรายได้เข้ามา ก็สามารถจัดการค่าใช้จ่ายของตัวเองได้ แต่ถ้าวันหนึ่งอยู่ดีๆ มีเรื่องฉุกเฉินเกิดขึ้น หรือคนในครอบครัวโทรมาขอเงิน ทำให้รายรับเริ่มไม่พอดีกับรายจ่าย คนวัยทำงาน Gen Y จึงต้องกลายเป็นเดอะแบกของครอบครัวแบบไม่ทันตั้งตัว
ปัญหาการเงินที่คนวัยทำงาน Gen Y มักเจอ
เมื่อคนวัยทำงาน Gen Y ต้องกลายเป็นเดอะแบกของครอบครัวแบบไม่ทันตั้งตัว คนที่มีหนี้บัตรเครดิตยิ่งหนักไปกว่าเดิม การจ่ายหนี้บัตรขั้นต่ำจากเดิม 5% ปัจจุบันต้องจ่ายขั้นต่ำที่ 8% ของยอดหนี้ ตามเกณฑ์ของ ธปท. เช่น มียอดหนี้บัตรเครดิต 100,000 บาท จ่ายขั้นต่ำ 5,000 บาท แต่พอปรับขึ้นเป็น 8% จะต้องจ่าย 8,000 บาท เพิ่มขึ้นมาอีก 3,000 บาทเลยทีเดียว ชาว Gen Y จึงแก้ปัญหาการเงินนี้ด้วยการหมุนเงิน วันนี้จ่ายหนี้บัตรขั้นต่ำไป วันพรุ่งนี้ก็ไปกดเงินออกมา เดือนหน้าก็จ่ายขั้นต่ำใหม่ หมุนแบบนี้ไปทุกเดือน
เมื่อค่าใช้จ่ายส่วนตัวเพิ่มสูงขึ้น และต้องมารับแบกภาระครอบครัวในเวลาเดียวกัน ชาว Gen Y จึงต้องไปกู้หนี้ยืมสิน หาแหล่งกู้เงินด่วนมาให้จนได้ ด้วยความเข้าใจว่าสิ่งนี้คือการทดแทนบุญคุณ เพราะพ่อแม่เลี้ยงดูเรามาจนโต จนสุดท้ายก็กลายเป็นปัญหาการเงินแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
หนี้เป็นมรดกไหม?
ถ้าเป็นหนี้แล้วเสียชีวิต หนี้ของพ่อแม่จะกลายเป็นมรดกของเราไหม? คำตอบคือ หนี้สินเป็นส่วนหนึ่งของมรดก เมื่อคนที่เป็นหนี้เสียชีวิต หนี้ของเขาจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของมรดกที่เขาทิ้งไว้เช่นกัน โดยทายาทต้องจ่ายหนี้เท่ากับมรดกที่ได้รับเท่านั้น เช่น ถ้าพ่อแม่มีมรดกให้เรา 500,000 บาท แต่เขามีหนี้ 200,000 บาท ทายาทจะรับมรดกได้แค่ 300,000 บาทเท่านั้น โดยทายาทไม่ต้องกังวลว่าจะต้องจ่ายหนี้มากกว่ามรดกที่ได้รับ
วางแผนชีวิตยังไง เมื่อต้องเป็นเดอะแบกของครอบครัว
ก่อนจะช่วยเหลือครอบครัวต้องรู้ก่อนว่า เราไหวแค่ไหน? การดูแลคนในครอบครัวเป็นเรื่องที่ดี แต่จะต้องไม่ให้ตัวเองเกิดปัญหาการเงินไปด้วย เพราะถ้าเราล้มขึ้นมา แล้วคนในครอบครัวเกิดเจ็บป่วย ต้องใช้เงินด่วน ใครจะมาดูแลพวกเขา เราจะถูกมองว่าอกตัญญูหรือเปล่า? โดยสิ่งสำคัญที่ควรต้องทำตั้งแต่วันนี้ คือ
1. ทำบัญชีรายรับรายจ่าย
การวางแผนชีวิตเอาไว้ล่วงหน้า ทำบัญชีรายรับรายจ่ายของตัวเองให้ดี เขียนแจกแจงรายละเอียดต่างๆ ออกมาให้เห็นแบบชัดเจน เพื่อตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป และดูว่าเรามีค่าใช้จ่ายจำเป็นของตัวเองอะไรบ้าง เช่น ค่าที่พัก 4,000 บาท ค่าเดินทาง 2,000 บาท ค่ากินอยู่ทั้งเดือน 4,000 บาท เป็นต้น จากนั้นจะรู้ว่า เราสามารถส่งเงินให้ที่บ้านได้เดือนละเท่าไหร่ โดยไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อส่งเงินให้ที่บ้าน
2. พูดคุยกับครอบครัว
การวางแผนชีวิตเมื่อต้องเป็นเดอะแบกของครอบครัว สิ่งสำคัญคือ การพูดคุยกับครอบครัวอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของเรา ช่วยสร้างความเข้าใจ และความไว้วางใจกันภายในครอบครัว เพื่อให้ทุกคนร่วมมือกันใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง เพียงเท่านี้ เราก็จะไม่ต้องมาเป็นหนี้แบบไม่จบไม่สิ้น และไม่ต้องแบกภาระหน้าที่อันหนักอึ้งเอาไว้เพียงคนเดียว
สรุป
การเป็นเดอะแบกของครอบครัวนั้น จะต้องรู้จักวางแผน และบริหารการเงินของตัวเองให้มั่นคงไปพร้อมกันด้วย แบกได้เท่าที่ไหว เราไม่ได้สอนให้อกตัญญู แต่เพื่อให้ทุกคนเป็นเสาหลักที่แข็งแรงของครอบครัวได้อย่างแท้จริง แต่ถ้าขาดสภาพคล่องทางการเงินจริงๆ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ให้เจ้าหน้าที่ของเรา ช่วยวางแผนการกู้เท่าที่จำเป็นต้องใช้จริง และต้องมั่นใจด้วยว่า เราจะสามารถผ่อนชำระคืนได้โดยไม่ส่งผลต่อภาระทางการเงินในระยะยาว
ที่มา: Marketeer