ใครกำลังจะหาซื้อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ถือว่าผิดกฎหมายนะครับ เงินติดล้อแนะนำให้เตรียมตัวไปสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ให้เรียบร้อย สำหรับการสอบใบขับขี่จักรยานยนต์จะมีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ คุณจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในกฎจราจร วิธีการขับขี่ที่ปลอดภัย รวมถึงต้องมีทักษะในการควบคุมรถจักรยานยนต์ได้เป็นอย่างดี การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปสอบ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณสอบผ่านได้มากยิ่งขึ้น และมีใบขับขี่เป็นของตัวเองถูกต้องตามกฎหมาย
วิธีการสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ครั้งแรก
สำหรับผู้ที่ทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งแรกสามารถเลือกได้ว่า จะเรียนกับโรงเรียนสอนขับรถที่รับรองโดยกรมการขนส่งทางบก พร้อมอบรมและสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์กับทางโรงเรียนเลยก็ได้ เมื่อผ่านการทดสอบโรงเรียนสอนขับรถจะออกใบรับรองให้คุณนำไปทำใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งต่อไป
หรืออีกวิธีหนึ่งคือ ฝึกขับรถ ฝึกทำข้อสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ตามแนวข้อสอบด้วยตัวเอง จากนั้นเดินทางไปสอบทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติที่สำนักงานขนส่งด้วยตัวเอง ซึ่งใบขับขี่มอเตอร์ไซค์โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคล ใช้สำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันทั่วไป มีอายุการใช้งานใบขับขี่ 5 ปี
- ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์สาธารณะ ใช้สำหรับการรับจ้าง บรรทุกรับ-ส่งคน หรือประกอบอาชีพมอเตอร์ไซค์รับจ้าง มีอายุการใช้งานใบขับขี่ 3 ปี
คุณสมบัติผู้สอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
สำหรับคุณสมบัติของผู้สอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จะมีความแตกต่างกับการสอบใบขับขี่รถยนต์ในเรื่องของอายุผู้ขับขี่ ดังนี้
- มีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (สำหรับการสอบขับขี่รถยนต์ ต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป)
- รถจักรยานยนต์ที่มีขนาดความจุกระบอกสูบรวมกันไม่เกิน 110 ลูกบาศก์เซนติเมตร
- ไม่มีร่างกายพิการจนเป็นที่เห็นได้ว่าไม่สามารถขับรถได้
- ไม่มีโรคประจำตัวที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่าอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ
- ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน
- ไม่อยู่ระหว่างถูกยึดหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
ค่าใช้จ่าย และเอกสารที่ต้องเตรียมทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์
- บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง
- ใบรับรองแพทย์ มีอายุไม่เกิน 1 เดือน
- ค่าคำขอ 5 บาท
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 100 บาท
ขั้นตอนการทำใบขับขี่ด้วยตนเอง
ถ้าคุณต้องการฝึกขับรถ ฝึกทำข้อสอบด้วยตัวเอง ก่อนไปสอบใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่ง จะมีขั้นตอน ดังนี้
- อ่าน e-Book คู่มืออบรมใบขับขี่ สำหรับผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์
- จองคิวเพื่อไปอบรมที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้าน ผ่านแอป DLT Smart Queue หรือผ่านเว็บไซต์ DLT Smart Queue โดยเลือกเมนูประเภทงานบริการ ‘งานใบอนุญาต’
- เข้าอบรมเป็นเวลา 5 ชั่วโมง
- สอบข้อเขียน (ภาคทฤษฎี)
- สอบขับรถ (ภาคปฏิบัติ)
- ถ่ายรูป ชำระค่าธรรมเนียม และรับใบขับขี่
แนวข้อสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 2567
นอกจากการอ่าน e-Book คู่มืออบรมใบขับขี่แล้ว เงินติดล้อแนะนำให้ฝึกทำข้อสอบจากแนวข้อสอบต่อไปนี้ ลองจับเวลา ลองผิดลองถูก มีส่วนช่วยให้คุณวางแผนการทำข้อสอบในแต่ละข้อ และสามารถจดจำเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น การสอบใบขับขี่จะแบ่งออกเป็น 2 วัน วันแรกจะสอบข้อเขียน (ภาคทฤษฎี) ก่อน เมื่อผ่านเกณฑ์จึงจะสอบขับรถ (ภาคปฏิบัติ) ในวันถัดไปได้
แนวข้อสอบภาคทฤษฎี
สำหรับข้อสอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์จะเหมือนกันเลย การสอบข้อเขียน (ภาคทฤษฎี) จะมีทั้งหมด 50 ข้อ ให้เวลาในการทำ 60 นาที โดยจะต้องทำให้ได้ 45 ข้อ หรือ 90% ขึ้นไปจึงจะผ่านเกณฑ์ คุณสามารถฝึกทำข้อสอบเสมือนจริง พร้อมเฉลย ผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกได้เลย หรือจะลองอ่านแนวข้อสอบตามหมวดต่างๆ ดังนี้
แนวข้อสอบภาคปฏิบัติ
การสอบขับรถ (ภาคปฏิบัติ) สำหรับทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ จะสอบทั้งหมด 5 ท่า ดังนี้
- ขับรถจักรยานยนต์โดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร
- ขับรถจักรยานยนต์ ทรงตัวบนทางแคบ ทรงตัวไว้โดยไม่ให้เท้าแตะพื้นประมาณ 10 วินาที
- ขับรถจักรยานยนต์ซิกแซกเข้าโค้งแคบ รูปตัว Z ห้ามชนกรวยล้ม
- ขับรถจักรยานยนต์เข้าโค้ง รูปตัว S ห้ามชนกรวยล้ม
- ขับรถจักรยานยนต์ซิกแซก หลบสิ่งกีดขวาง
กรณีสอบไม่ผ่าน เจ้าหน้าที่จะบันทึกผล และออกใบนัดสอบครั้งต่อไปให้ โดยนำใบนัดไปจองคิวทดสอบขับรถใหม่ได้
สรุป เตรียมตัวให้พร้อมก่อนสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์
การแบ่งเวลาฝึกขับรถ ฝึกทำข้อสอบล่วงหน้า ช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านตั้งแต่ครั้งแรก ไม่ต้องเสียเวลาไปสอบซ้ำหลายๆ รอบ เมื่อได้ใบขับขี่มาแล้ว คุณก็จะใช้รถจักรยานยนต์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ใช้ขับขี่ในชีวิตประจำวัน หรือเดินทางไปทำงานได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ รถมอเตอร์ไซค์ของคุณยังสามารถนำไปขอสินเชื่อทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์กับเงินติดล้อได้ด้วย อีกหนึ่งแหล่งเงินทุนสำรองฉุกเฉิน ที่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับคุณได้ตลอดเวลา