5 วิธีดูทองคำแท้ ทองคำปลอมดูยังไงและต่างกันอย่างไร

5 วิธีดูทองคำแท้ ทองคำปลอมดูยังไงและต่างกันอย่างไร
รถของคุณผ่อนหมดแล้วหรือยัง?
กรุณากรอกชื่อภาษาไทย
กรุณากรอกเฉพาะตัวเลข

การกดยืนยันข้อมูล แสดงว่าคุณอ่านและรับทราบ นโยบายความเป็นส่วนตัว เรียบร้อยแล้ว

สังเกตได้ว่าในช่วงนี้ราคาของทองคำจะมีมูลค่าสูงขึ้นค่อนข้างมาก ทำให้คนที่พากันกักตุนทองเอาไว้แห่นำไปขายสร้างกำไรกันเป็นกอบเป็นกำ แต่ท่ามกลางโอกาสเช่นนี้กลับมีมิจฉาชีพแอบปล่อยทองคำปลอมออกมาระบาดเป็นจำนวนมาก จนไม่รู้ว่าที่มีอยู่เป็นทองคำแท้จริงหรือไม่

สำหรับคนที่ต้องการแลกเปลี่ยนทองคำกันเองโดยไม่ได้ผ่านร้านทอง หากไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอก็อาจถูกหลอกได้ง่าย ๆ หรือคนที่ต้องการซื้อทองคำต่อจากคนอื่น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีดูทองคำแท้ในเบื้องต้น จะสามารถช่วยไม่ให้คุณถูกหลอกได้อย่างแน่นอน อย่างน้อยก็ทำให้คุณคิดได้อย่างรอบคอบมากขึ้นก่อนตัดสินใจซื้อทองคำจากผู้อื่น

5 วิธีดูทองคำแท้ด้วยตัวคุณเอง

5 วิธีดูทองคำแท้ด้วยตัวคุณเอง

สำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการดูทองคำแท้มาก่อน อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพหลอกขายทองปลอมได้ การซื้อทองจากร้านที่ไว้ใจได้ จะสามารถขอใบรับประกันความเป็นทองคำแท้จากทางร้านเพื่อยืนยันทองของคุณ แต่หากท่านซื้อมาจากแหล่งอื่น หรือไม่มั่นใจว่าทองที่ได้มาเป็นของแท้หรือไม่ วิธีการพิสูจน์ทองคำแท้ด้วยตัวเอง สามารถทำได้โดยวิธีการ ดังนี้

1. การสำรวจตราประทับ

จากการควบคุมมาตรฐานโดยสมาคมค้าทองคำ ทำให้ปกติแล้วทองคำแท้จะมีการตีตราของร้าน (ยี่ห้อหรือโลโกร้าน) หรือแหล่งผลิตเอาไว้อย่างชัดเจนเพื่อเป็นการการันตีแหล่งที่มา สังเกตจากการดูตามข้อหรือห่วงของทอง รวมไปถึงการแจ้งตัวเลขบอกความบริสุทธิ์ของทองเอาไว้ด้วย เช่น 14k 18k 22k 24k หรือแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น 70% 80% 90%

เนื่องจากทองคำแท้จะมีคุณสมบัติค่อนข้างนิ่มจึงทำให้สามารถปั๊มตราประทับลงไปได้ จึงทำให้เป็นการยากที่จะทำการเลียนแบบในจุดนี้ หากสัญลักษณ์เหล่านี้มีความไม่ชัดเจนหรือเบลอ แนะนำให้หลีกเลี่ยงเอาไว้ก่อน เพราะอาจเป็นของปลอมที่ทำเลียนแบบตราขึ้นมาได้

2. แม่เหล็ก

ทองคำแท้นั้นจะไม่ถูกแม่เหล็กดูดจนติดอย่างแน่นอน หากมีการขยับหรือถูกแม่เหล็กดูดจนติด แปลว่าภายในทองชิ้นนั้นอาจมีโลหะอื่น ๆ สอดไส้ไว้ด้านในอย่างแน่นอน

3. การชั่งน้ำหนัก

วิธีการนี้จำเป็นต้องใช้เครื่องชั่งน้ำหนักแบบดิจิตอลที่มีความแม่นยำสูง สำหรับทองคำแท้นั้น สมาคมค้าทองคำได้กำหนดน้ำหนักของทองรูปพรรณความบริสุทธิ์ 96.5% (23k) แต่ละขนาดเอาไว้ โดยคุณสามารถทดสอบได้ผ่านน้ำหนักมาตรฐานดังนี้

  • ทองครึ่งสลึง หนัก 1.89 - 1.9 กรัม
  • ทอง 1 สลึง หนัก 3.79 - 3.8 กรัม
  • ทอง 2 สลึง หนัก 7.58 - 7.6 กรัม
  • ทอง 3 สลึง หนัก 11.37 - 11.4 กรัม
  • ทอง 1 บาท หนัก 15.16 - 15.2 กรัม
  • ทอง 2 บาท หนัก 30.32 - 30.4 กรัม

หากทองของคุณมีขนาดที่มากกว่านี้ สามารถใช้การบวกลบเพิ่มเติมได้ตามน้ำหนักมาตรฐานที่เราได้กล่าวไป ส่วนทองปลอมนั้นน้ำหนักจะไม่ได้เท่ากับมาตรฐานที่กำหนดไว้ เนื่องจากต้องคำนึงถึงความเหมาะสมในการขึ้นรูปมากกว่า จึงมีน้ำหนักที่แตกต่างกันออกไป

4. ใช้เล็บจิก หรือทดลองกัดที่เนื้อทอง

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าทองคำนั้นจะมีคุณสมบัติที่มีความอ่อนตัวค่อนข้างสูง ทำให้สามารถเกิดรอยบุบได้ค่อนข้างง่าย เพียงแค่ใช้เล็บจิกหรือลองกัดเบา ๆที่เนื้อทอง ถ้ามีการยุบตัวลงของทองคำจะสามารถระบุได้ทันทีว่าเป็นทองคำแท้ เพียงแต่ว่าวิธีนี้อาจทำให้ทองคำเสียรูปไปบ้างจึงแนะนำให้ทดลองผ่านวิธีการอื่นก่อนจะดีที่สุด

5. ตรวจสอบรอยที่ข้อต่อ

ทองคำแท้นั้นจะแตกต่างจากทองคำปลอมตรงที่ ทองคำแท้นั้นจะมีสีทองโดยธรรมชาติ แต่ทองคำปลอมจะใช้การชุบ เพราะฉะนั้นให้ลองสังเกตบริเวณรอยต่อว่ามีความเป็นขุยหรือหลุดลอกใด ๆ หรือไม่ ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้นก็มั่นใจได้เลยว่านี่คือทองปลอมอย่างแน่นอน

เพื่อความแน่ใจ ให้ผู้เชี่ยวชาญเช็กทองแท้ชัวร์ที่สุด

วิธีการตรวจสอบทองคำแท้ที่เราได้กล่าวไปข้างต้น เป็นวิธีการตรวจสอบเพียงเบื้องต้นเท่านั้น หากคุณลองทดสอบด้วยวิธีการทั้งหมดแล้วยังรู้สึกไม่ชัวร์ แนะนำว่าให้ทำการปรึกษาร้านทองเพื่อเข้ารับบริการตรวจสอบทองคำแท้

เนื่องจากร้านทองนั้นจะเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำ ซึ่งมีกระบวนการเฉพาะทางที่สามารถพิสูจน์ได้ดีกว่าวิธีการที่เราได้กล่าวไปข้างต้น เช่นการทดลองหยดน้ำกรด ตะไบดูเนื้อใน หรือทดลองเผาไฟ ซึ่งผู้ที่ไม่ชำนาญไม่สามารถทดสอบเองได้

ทำความรู้จักทองคำประเภทต่าง ๆ

ตรวจสอบทองคำแท้

ก่อนที่จะเริ่มการพิสูจน์ว่าทองแบบไหนเป็นทองคำแท้ เรามาทำความรู้จักทองคำประเภทต่างๆ กันก่อน ได้แก่

  • ทองคำแท้

    ทองคำแท้ ในที่นี้หมายถึงทองคำที่มีเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์สูง ได้แก่ 96.5% (23k) และ 99.9% (24k) หรือมีธาตุอื่น ๆ เจือปนในขั้นตอนการผลิตไม่เกิน 3.5%

    โดยทองคำแท้นั้นจะมีความแข็งแรงต่ำเนื่องด้วยคุณสมบัติของแร่ทอง มีความนิ่ม และบุบได้ง่าย สามารถใช้ในการซื้อขาย หรือจำนำได้ราคาสูงเทียบเท่ากับราคาทองที่เกิดขึ้นตามท้องตลาด

  • ทองคำเปอร์เซ็นต์ต่ำ

    ทองคำเปอร์เซ็นต์ต่ำ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ทองเค ทองเขียว หมายถึงทองที่มีเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์ต่ำกว่า 96.5% ลงไป หรือมีธาตุอื่น ๆ ผสมเกินกว่า 3.5% ทำให้มีความแข็งแรงทนทานมากกว่าทองคำแท้ และสามารถออกแบบได้หลากหลายดีไซน์มากกว่า รวมไปถึงการตกแต่งสีเป็น Pink Gold หรือ Yellow Gold

    เพียงแต่ว่าราคาขายของทองประเภทนี้จะไม่สูงเทียบเท่ากับทองคำแท้ เนื่องจากความบริสุทธิ์ของทองที่ค่อนข้างต่ำนั่นเอง แต่ก็สามารถนำไปขายหรือจำนำที่ร้านทองได้ (อาจมีกรณีที่ทองมีความบริสุทธิ์ต่ำเกินไปจนร้านไม่รับซื้อเช่นเดียวกัน) โดยราคานั้นอาจจะมีการผันผวนตามรูปลักษณ์ภายนอก

  • ทองคำปลอม

    ทองคำปลอม ในที่นี้หมายถึงทองที่ไม่ได้มีส่วนผสมของทองคำแท้อยู่เลย โดยอาจใช้โลหะอื่น ๆ ชุบทองแค่เพียงภายนอกเท่านั้น ภายในอาจเป็นทองเหลืองเหลืองอลูมิเนียมทองรูปพรรณโดยทองคำประเภทนี้ก็ได้มีขายที่ร้านทองทั่วไปเช่นเดียวกันเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า แต่ว่าจะไม่สามารถนำกลับมาขายหรือจำนำได้เหมือนกับทองคำแท้ แต่เนื่องจากรูปลักษณ์ภายนอกที่มีความคล้างคลึงกัน เหล่ามิจฉาชีพจึงอาจนำไปใช้ในการหลอกลวงได้

สรุป วิธีดูทองคำแท้ ทองคำปลอม

เพียงเท่านี้คุณก็มีวิธีดูทองคำแท้ด้วยตัวเองเบื้องต้นแล้ว เพราะปัจจุบันมีมิจฉาชีพมากมายหลายรูปแบบ ทั้งแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินด้วยวิธีการต่าง ๆ และมีผู้ถูกหลอกไปแล้วนับไม่ถ้วน ดังนั้น หากคุณมีวิธีเช็คทองแท้ทองปลอมดูยังไง ก็จะไม่ทำให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้อย่างแน่นอน แต่ทางที่ดีขอแนะนำให้ซื้อทองจากร้านทองที่มีใบรับประกันจะเป็นการดีที่สุด และการซื้อทองคำเพื่อการลงทุน มีความเสี่ยงหลายปัจจัย ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน

ขอบคุณข้อมูลจาก : AURORA

รถของคุณผ่อนหมดแล้วหรือยัง?
กรุณากรอกชื่อภาษาไทย
กรุณากรอกเฉพาะตัวเลข

การกดยืนยันข้อมูล แสดงว่าคุณอ่านและรับทราบ นโยบายความเป็นส่วนตัว เรียบร้อยแล้ว

เงินติดล้อ

บทความโดย

เงินติดล้อ

ผู้มุ่งหวังให้สังคมไทยมีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้น