การเก็บเกี่ยวผลผลิตในปีนี้ที่ส่งออกไปแล้ว ได้กำไรน้อยกว่าทุกปี เป็นเพราะว่าเศรษฐกิจฝืดเคือง ลูกค้ารายใหญ่รายย่อยต่างก็ลดจำนวนสินค้าน้อยลง ทำให้ผลผลิตการเกษตรมีราคาถูก รวมถึงผลไม้ส่งออกหรือผักส่งออกต้องตกค้างสต๊อกและเน่าเสียตามกาลเวลา แทนที่จะได้สร้างกำไรกลายเป็นว่าขาดทุน ถ้ามีชีวิตก็ต้องมีหวัง แต่จะให้รอเงินช่วยเหลือเกษตรกรก็คงจะล่าช้าไป ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเรียกใช้งานสินเชื่อรถบรรทุกเพื่อเกษตรกรที่ช่วยให้ชีวิตหมุนต่อไปได้
แหล่งกู้เงินสำหรับเกษตรกรต้องการเงินก้อนเพื่อต่อลมหายใจ
เพื่อให้อาชีพเกษตรกรยังคงอยู่ และการใช้ชีวิตดำเนินต่อไปได้ ถึงเวลาแล้วที่พี่น้องชาวเกษตรกรที่จะออกมาตามหาแหล่งสินเชื่อเพื่อการเกษตรว่ามีอะไรบ้าง เช่น ทางรัฐมีมาตรการอะไรที่จะช่วยเยียวยาด้วยเงินช่วยเหลือให้กับเกษตรกร หรือการกู้สินเชื่อเพื่อการเกษตรกับภาคเอกชน ซึ่งทั้งหมด มีดังนี้
เงินช่วยเกษตรกร มาตรการจากรัฐบาล
เงินช่วยเหลือชาวสวนยาง เงินช่วยเหลือปลูกข้าวโพด หรือเงินช่วยเหลือชาวไร่ชาวสวนประเภทอื่น ๆ ในส่วนนี้เรียกว่าเงินช่วยเหลือเกษตรกรที่ภาครัฐได้มอบให้ เดือนละ 5,000 บาทในระยะเวลา 3 เดือน เมื่อคิดเป็นเงินก้อนคือ 15,000 บาท แต่เงินติดล้อมั่นใจว่า เงินก้อนนี้คงไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตแน่นอนครับ
เพราะมีค่าใช้จ่ายมากมายที่เสียไปแล้วไม่ได้กำไรคืนมา เช่น ค่าถมดินเพื่อปลูกพืชผักผลไม้ ค่าเมล็ดพืชพันธุ์ ค่าปุ๋ยสำหรับการเติบโต ค่าแรงงานของคนในไร่ในสวน (ในกรณีที่มีการว่าจ้างให้ช่วยเก็บเกี่ยว) และค่ากินอยู่ในชีวิตประจำวัน ดังนั้น ต้องหาแหล่งกู้สินเชื่อเพื่อให้การทำการเกษตร ให้การเงินหมุนต่อได้อีกหนึ่งช่องทาง
ข้อมูลจาก : bangkokbiznews
เงินช่วยเหลือเกษตรกรกับสหกรณ์การเกษตร
ถ้าทำอาชีพเกษตรกรก็ต้องมีองค์กรที่รองรับอาชีพอยู่แล้ว ซึ่งก็คือ “สหกรณ์การเกษตร” เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นจากชาวเกษตรกร เพื่อให้สมาชิกในองค์กรรวมด้วยช่วยกันแก้ไขปัญหาและความเดือดร้อน ยกระดับความเป็นอยู่ของสมาชิกสหกรณ์การเกษตรให้ดีขึ้น ยิ่งในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ สหกรณ์การเกษตรอาจเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาที่ดีสำหรับชาวเกษตรกรครับ
เพราะหัวใจสำคัญในการจัดตั้งสหกรณ์การเกษตรก็เพื่อแก้ไขปัญหาการเดือดร้อน เช่น ขาดแคลนเงินทุนในการประกอบอาชีพ ขาดแคลนที่ดินในการทำกิน ถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง ฯลฯ โดยคุณสามารถติดต่อไปยังสหกรณ์การเกษตรได้เลยครับ
ที่สำคัญสหกรณ์การเกษตรเป็นการรวมตัวกันอย่างถูกกฎหมาย ทำให้ธนาคารให้ความเชื่อถือในเรื่องของการกู้ยืมเงิน และมีสิทธิ์ในการเสียดอกเบี้ยที่ต่ำลงกว่าปกติ เท่ากับว่า กู้เงินกับสหกรณ์การเกษตรเสียดอกเบี้ยน้อยกว่ากู้แบบอื่น ๆ ซึ่งก็จะช่วยให้คุณเบาลงในเรื่องเงินดอกเบี้ยไปได้เยอะเลยทีเดียว
สินเชื่อทะเบียนรถบรรทุกเพื่อการเกษตร
ปฏิเสธไม่ได้เลยนะครับว่าเกษตรกรแต่ละคนต้องมีรถบรรทุกเพื่อใช้ขนส่งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรกันอยู่แล้ว ซึ่งรถบรรทุกที่มีสามารถนำมาเปลี่ยนเป็นเงินก้อนในเวลาที่กำลังเดือดร้อนได้ด้วย ทำให้ไม่ต้องไปกู้เงินนอกระบบที่มีดอกเบี้ยโหด ๆ จนสุดท้ายก็แบกรับภาระทั้งหมดไม่ไหว
สินเชื่อทะเบียนรถบรรทุกรับรถอายุสูงสุด 25 ปี และมีวงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท ผ่อนได้นานสูงสุด 60 เดือน และไม่ต้องโอนรถบรรทุกไปให้ใคร สามารถใช้รถบรรทุกเพื่อหารายได้ต่อไป และยังได้เงินก้อนไปหมุนต่อในธุรกิจอีกด้วย ดังนั้น สินเชื่อทะเบียนรถบรรทุก จึงเป็นแหล่งกู้เงินที่ดี
สินเชื่อเพื่อการเกษตรจะเลือกที่ไหนดีที่สุด?
งินติดล้อเข้าใจดีว่าการทำอาชีพเกษตรกรต้องมีเงินทุนสำรองเพื่อให้ทุกอย่างหมุนเวียนได้คล่อง เริ่มตั้งแต่หว่านเมล็ดกล้าเมล็ดพันธุ์ เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วก็ยังมีค่าใช้จ่ายเรื่องขนส่ง และอื่น ๆ อีกมากมาย
กว่าเงินกำไรนั้นจะวนกลับมาเข้ากระเป๋าก็ใช้เวลานานมาก เมื่อขาดทุนก็ต้องหาแหล่งกู้เงินใหม่ ซึ่งเงินเยียวจากรัฐบาลเป็นสิทธิ์ที่เกษตรกรทุกคนต้องได้อยู่แล้วแต่ถ้าเงินก้อนที่ได้มาไม่พอใช้ ก็ต้องเลือกอีก 2 วิธีที่เหลือ
ซึ่ง 2 วิธีที่เหลือก็เหมาะกับเกษตรกรอยู่แล้วครับ สามารถเลือกได้เลย เช่น เข้าไปปรึกษากับสหกรณ์การเกษตรเมื่อได้เงินมาแล้วยังไม่พอใช้ ก็หาเงินเพิ่มโดยใช้สินเชื่อรถเพื่อการเกษตร
ดังนั้น ทุกวิธีในการขอสินเชื่อเพื่อการเกษตรเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเกษตรกรที่กำลังต้องการเงินก้อนมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จ่ายเงินค่าแรง หรือค่าอื่น ๆ เพื่อทดแทนกำไรที่ขาดหายไปนั่นเองครับ
สรุป
การมีเงินทุนหมุนเวียนจำเป็นมากสำหรับเกษตรกร ยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ยิ่งต้องมีเงินสำรองก้อนโตไว้คอยหนุนอาชีพให้สามารถเดินต่อไปได้ แล้วในกรณีที่กำไรลดลงกว่าเดิมมาก ๆ ยิ่งสุ่มเสี่ยงที่อาชีพเกษตรกรจะไม่สามารถไปต่อได้ การหันหน้าเข้าหาการกู้เงินจากสหกรณ์การเกษตร หรือใช้สินเชื่อทะเบียนรถบรรทุก จึงเป็นอีกหนึ่งแหล่งเงินก้อนที่จะช่วยพยุงและหนุนหลังให้ชีวิตของคุณสามารถไปต่อได้ครับ!