ขึ้นชื่อว่าหนี้แล้ว คงไม่มีใครมองว่าการเป็นหนี้เป็นเรื่องที่ดีหรอก เพราะการเป็นหนี้ในมุมมองของหลาย ๆ คน คงต้องหมายถึงการยืมเงินของคนอื่น และการเอาเงินในอนาคตมาใช้ แต่อย่างไรก็ตามทุกอย่างมีสองด้านเสมอ เพราะบางครั้งการเป็นหนี้ก็มีข้อดีนะ ซึ่งการเป็นหนี้แบบนี้เราจะเรียกว่า
หนี้ดี ส่วนหนี้ที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลยจะเรียกว่า
หนี้เสีย วันนี้เราจะพาคุณไปสำรวจกันว่า หนี้ดีและหนี้เสียคืออะไร และจะชวนคุณมาดูกันว่า หนี้ที่คุณมีตอนนี้เป็นหนี้แบบไหน
หนี้ดีเป็นแบบไหน ?
หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่า แล้วการเป็นหนี้มันจะไปดีได้ยังไง (นั่นสิ) เพราะการเป็นหนี้นั้นหมายความว่า เราจะต้องเสียดอกเบี้ย แต่ลองสมมุตินะ ถ้าคุณไปเจอช่องทางในการขยายธุรกิจ แล้วไม่สามารถหาเงินลงทุนตอนนั้นได้ คุณจะทำอย่างไร คุณคงไม่อยากให้โอกาสผ่านไปแบบเสียเปล่า โดยที่คุณไม่ได้ทำอะไรได้เลยใช่มั้ย
หรืออาจลองสมมุติว่า คุณอยากเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แต่ไม่มีเงินไปซื้อมอเตอร์ไซค์มาประกอบอาชีพ ลองคิดดูว่าคุณจะทำยังไง เพราะสาเหตุแบบนี้ จึงทำให้บางทีการเป็นหนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น และเราเรียกหนี้แบบนี้ว่าหนี้ดี ไปทำความรู้จักกับหนี้ดีกันดีกว่า
หนี้ดี หมายถึงหนี้ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ และสร้างรายได้ให้กับลูกหนี้ ซึ่งประเภทของหนี้ดีจะแบ่งได้ ดังนี้
หนี้เพื่อความมั่นคง ส่วนใหญ่มักจะเป็นบ้าน และที่ดิน ซึ่งนอกจากใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้แล้วนั้น ราคาก็มักจะเพิ่มขึ้น และสามารถปล่อยเช่าเพื่อสร้างรายได้ได้อีกด้วย
หนี้เพื่อการสร้างธุรกิจและอาชีพ เป็นหนี้ที่มาจากการนำเงินไปลงทุนในธุรกิจ หรือซื้ออุปกรณ์ไปประกอบอาชีพ ซึ่งหนี้แบบนี้จะสร้างรายได้ให้กับผู้กู้ในอนาคต
หนี้เพื่อการศึกษา ความรู้และทักษะสามารถนำไปใช้ในอาชีพเพื่อสร้างรายได้ในอนาคตได้ ดังนั้นหนี้ที่นำไปใช้ด้านการศึกษาจึงถือว่าเป็นหนี้ดี
หนี้เสียเป็นแบบไหน
อย่างที่บอกไปแล้วว่า ทุกอย่างย่อมมีสองด้านเสมอ มีหนี้ดีแล้วก็ต้องมีหนี้เสีย ซึ่งหนี้เสียนั้นหมายถึง หนี้ที่เกิดจากการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเพื่อสนองความต้องการ และเป็นหนี้ที่ไม่ทำให้เกิดรายได้ เช่น การผ่อนมือถือ, โทรทัศน์, กระเป๋า และอาจรวมถึงหนี้ที่เราไม่สามารถจ่ายไหว (สภาพคล่องต่ำ) และมียอดผ่อนสูงเมื่อเทียบกับรายได้อีกด้วย เช่น การซื้อรถหรู ๆ แพง ๆ จนผ่อนไม่ไหว
ปัจจุบันสาเหตุที่คนไม่ค่อยจ่ายหนี้กัน ก็เพราะคนส่วนใหญ่มีหนี้เสียมากกว่าหนี้ดี ซึ่งการมีหนี้เสียนั้น นอกจากจะไม่สร้างรายได้แล้ว ยังจะทำให้มีค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนสูงมาก ซึ่งการเป็นหนี้เสียนั้นมักจะมีสาเหตุมาจากนิสัยการใช้เงินที่ฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น และการไม่วางแผนการเงินแบบระยะยาว
ดังนั้นก่อนที่จะมีหนี้ ก็ควรดูให้รอบคอบก่อนว่า หนี้ที่เราจะก่อนั้นเป็นหนี้แบบไหน ภาระหนี้ของเราสูงหรือต่ำเมื่อเทียบกับรายได้ ซึ่งเราขอแนะนำว่าภาระหนี้ในแต่ละเดือนนั้น ไม่ควรเกินกว่า 40% ของรายได้ สุดท้ายนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นหนี้ดีหรือหนี้เสีย สิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องมีเลยนั่นก็คือ วินัยในจ่ายหนี้ เพราะนอกจากจะไม่ทำให้คุณเสียเครดิตแล้ว การมีวินัยจะช่วยให้คุณสามารถปลดหนี้สำเร็จได้ในที่สุด !